ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี ปรับประมาณการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์ ‘โอมิครอน’ ในสหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับ 58.6% ตามรายงานของรอยเตอร์
เมื่อวันอังคาร (28 ธันวาคม) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี ปรับตัวเลขประมาณการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐฯ จากระดับ 73% มาอยู่ที่ 58.6% ขณะที่พบผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์เดลตาราว 41.1% ในสหรัฐฯ อ้างอิงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา
ทางโฆษกซีดีซี กล่าวหลังปรับลดประมาณการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐฯว่า สิ่งที่สำคัญในตอนนี้ คือ เรายังเห็นการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิดโอมิครอนในสหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง ด้านอดีตผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA สก็อต ก็อทลีบ (Scott Gottlieb) ระบุในทวิตเตอร์ว่า ประมาณการณ์ล่าสุดของซีดีซีนั้นมีความถูกต้องแม่นยำ ขณะที่ตอนนี้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลสหรัฐฯตอนนี้ อาจมาจากโควิดกลายพันธุ์เดลตาเป็นหลัก
ซีดีซี เผย ไข้หวัดใหญ่กลับมาระบาดในสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังโควิดระบาด
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี ระบุว่า การระบาดของไข้หวัดใหญ่ในสหรัฐฯ กลับมาอีกครั้งในรอบกว่า 1 ปีที่โคโรนาไวรัส โควิด-19 ระบาดหนัก ตามรายงานของเอพี
ลินเนตต์ แบรมเมอร์ หัวหน้าฝ่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศ แห่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี ยืนยันว่า ฤดูกาลการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในสหรัฐฯ กลับมาอีกครั้ง โดยในปีนี้มีผู้ติดเชื้อและเข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาลจากไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน มีรายงานเด็กเสียชีวิตแล้ว 2 คนจากไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจถึงความรุนแรงของเชื้อไข้หวัดใหญ่
เมื่อปีที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ในระดับต่ำสุดเท่าที่มีการบันทึกข้อมูลมาในสหรัฐฯ โดยพบเด็กเสียชีวิต 1 คนจากไข้หวัดใหญ่ ซึ่งถือว่าต่ำกว่าปกติ เมื่อเทียบกับระดับการเสียชีวิตที่ 199 คน เมื่อปี ค.ศ. 2019 และ 144 ราย เมื่อปี ค.ศ. 2018
หัวหน้าฝ่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศของซีดีซี มองว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ที่ลดลงในปีก่อน อาจเป็นผลสืบเนื่องมาจากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 อย่างเช่น การปิดสถานศึกษา การรักษาระยะห่างระหว่างกัน การสวมหน้ากาก และการยกเลิกหรือจำกัดการเดินทาง ซึ่งเป็นมาตรการในการสกัดกั้นการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ด้วยเช่นกัน
ข้อมูลล่าสุดของซีดีซีที่เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (27 ธันวาคม) พบว่าในปีนี้ มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่มากที่สุดในกรุงวอชิงตัน และอีก 7 รัฐในอเมริกา ได้แก่ นิวเม็กซิโก แคนซัส อินเดียนา นิวเจอร์ซีย์ เทนเนสซี จอร์เจีย และนอร์ทดาโกตา ขณะที่กลุ่มเสี่ยงไข้หวัดใหญ่ยังคงเป็นเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
(ที่มา: เอพีและรอยเตอร์)