แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าพบผู้นำอิสราเอลในวันอังคาร เพื่อเดินหน้าผลักดันให้มีการเจรจาหยุดยิงในสงครามกาซ่าอีกครั้ง และเปิดทางให้มีการนำส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่ความขัดแย้งนี้มากขึ้น พร้อม ๆ กับการลดระดับความรุนแรงในสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มเฮซบอลลาห์ในเลบานอนด้วย
ในการเดินทางมายังตะวันออกกลางครั้งที่ 11 นับตั้งแต่ความขัดแย้งในกาซ่าปะทุขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปี 2023 รัฐมนตรีบลิงเคนพบหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เร่งเร้าให้อิสราเอลเร่งจัดทำข้อตกลงหยุดยิงเพื่อยุติสงครามในกาซ่า ซึ่งจะนำไปสู่การปล่อยตัวประกันทั้งหมดซึ่งเชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่ราว 60 คน
รายงานข่าวระบุว่า ทั้งสองคนหารือกันเป็นเวลาราวสองชั่วโมงครึ่ง โดยเนทันยาฮูกล่าวกับบลิงเคนว่า การสังหารผู้นำกลุ่มฮามาส ยาห์ยา ซินวาร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาจส่งผลบวกต่อการปล่อยตัวประกัน และอิสราเอลยังสามารถบรรลุเป้าหมายในการยุติการปกครองของฮามาสในกาซ่าได้ด้วย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แมทธิว มิลเลอร์ แถลงข่าวว่า รัฐมนตรีบลิงเคนได้พยายามกดดันให้นายกฯ อิสราเอล ยินยอมเปิดทางให้มีการขนส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในกาซ่าได้มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ทางเหนือที่มีการสู้รบรุนแรง รวมทั้งหารือเรื่องสันติภาพในระยะยาวของกาซ่าหลังจากสงครามสิ้นสุดลง
เนทันยาฮูและบลิงเคนยังได้พูดถึงการต่อสู้ระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มเฮซบอลลาห์ในเลบานอนที่มีอิหร่านหนุนหลัง โดยเนทันยาฮูได้ระบุถึงความจำเป็นของการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเลบานอนเพื่อที่ชาวอิสราเอลจะสามารถกลับสู่บ้านของพวกเขาในแถบภาคเหนือของอิสราเอลซึ่งมีพรมแดนติดกับเลบานอนได้
แต่ก่อนที่บลิงเคนจะได้เริ่มนั่งลงหารือกับฝ่ายอิสราเอล กลุ่มติดอาวุธเฮซบอลลาห์กล่าวว่า ได้ยิงจรวดเข้าใส่ฐานทัพของอิสราเอลที่อยู่ใกล้กรุงเทลอาวีฟและเมืองไฮฟา ขณะที่ อิสราเอลเปิดเผยว่า ได้ยิงสกัดจรวดทั้งหมดที่ยิงมาจากเลบานอนไว้ได้
กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนรายงานด้วยว่า การโจมตีของอิสราเอลในวันอังคารใกล้ ๆ กับโรงพยาบาลหลักของรัฐใกล้กรุงเบรุตสังหารผู้คนอย่างน้อย 13 รายและทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 57 คนด้วย โดยกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ได้ยิงใส่เป้าหมายเฮซบอลลาห์หลายจุดในเมืองหลวงของเลบานอน โดยหนึ่งในนั้นเป็นฐานทัพกลางสำหรับกองกำลังทางน้ำของกลุ่มติดอาวุธนี้
เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่สหรัฐฯ อียิปต์และกาตาร์เป็นตัวกลางเดินหน้าความพยายามเจรจาหาทางออกให้กับความขัดแย้งในภูมิภาคนี้แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เกิดการหยุดยิงในฉนวนกาซ่าและมีการปล่อยตัวประกันที่ยังอยู่ในมือกลุ่มฮามาสได้
นอกจากที่อิสราเอลแล้ว บลิงเคนมีกำหนดแวะเยือนอีกหลายจุดในตะวันออกกลางด้วย รวมถึง ประเทศจอร์แดนในวันพุธ
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เพราะยังไม่เกิดการหยุดยิงขึ้นได้จริง การหารือกับผู้นำโลกอาหรับจะเน้นการปรับเปลี่ยนข้อเสนอสำหรับวิธีการปกครองกาซ่า หลังความขัดแย้งนี้ยุติลง โดยฝั่งสหรัฐฯ มีแนวคิดบางอย่างสำหรับแผนงานหลังสงครามจบลงที่จะนำขึ้นมาพูดคุยกับอิสราเอลโดยตรงต่อไปด้วย
นิมรอด โกเรน นักวิชาการอาวุโสด้านกิจการอิสราเอลจาก Middle East Institute บอกกับวีโอเอว่า ช่องว่างระหว่างจุดยืนของอิสราเอลและฮามาสเกี่ยวกับเงื่อนไขการหยุดยิงนั้น “ยังห่างกันอยู่มาก” และแสดงความสงสัยว่า จะเกิดความสำเร็จด้านการทูตในการเดินทางเยือนครั้งนี้ของบลิงเคนได้หรือไม่
โกเรนกล่าวว่า “ช่องว่างนี้มันใหญ่มาก โดยอิสราเอลนั้นต้องการให้ฮามาสไม่ปกครองกาซ่าอีกต่อไปและไม่มีตัวตนอยู่ในกาซ่าอีกเลย เนื่องจากเป็นภัยด้านความมั่นคง และฮามาสเองต้องการในสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน ดังนั้น นอกเหนือจากประเด็นตัวประกันแล้ว ผลประโยชน์ลึก ๆ และความต้องการของแต่ละฝ่ายก็ขัดแย้งกันอยู่แล้ว”
ในวันอังคาร ฟิลิปเป ลาซซารินี หัวหน้าสำนักงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ของสหประชาติ (U.N. Palestinian refugee Agency - UNRWA) เรียกร้องให้มีการพักการสู้รบในทันที “แม้จะเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม” เพื่อให้ครอบครัวทั้งหลายในภาคเหนือของกาซ่าได้อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย
“เกือบ 3 สัปดาห์ของการทิ้งระเบิดแบบไม่มีหยุดจากกองกำลังอิสราเอล ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตก็พุ่งขึ้นเรื่อย ๆ” ลาซซารินีระบุในแถลงการณ์ “ในตอนเหนือของกาซ่า ผู้คนกำลังรอความตายอยู่ พวกเขารู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง สิ้นหวังและโดดเดี่ยว พวกเขาใช้ชีวิตแบบชั่วโมงต่อชั่วโมง กลัวว่าความตายจะมาถึงได้ทุกขณะ”
หัวหน้า UNRWA กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของยูเอ็น “ไม่สามารถหาอาหาร น้ำดื่มหรือยารักษาโรคได้เลย”
กลุ่มเฮซบอลลาห์ที่อิหร่านหนุนหลังอยู่ทำการโจมตีทางอากาศใส่อิสราเอล หลังฮามาสโจมตีทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมของปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คนและมีการจับตัวประกันไปกว่า 250 คน นำมาซึ่งการโจมตีโต้กลับของอิสราเอลเข้าไปในฉนวนกาซ่าที่ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วกว่า 42,600 คน อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซ่าที่ไม่แยกตัวเลขนักรบกลุ่มติดอาวุธออกจากพลเรือน
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์
กระดานความเห็น