ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ นำแถลงนโยบายและผลงานประจำปี หรือ State of the Union ต่อหน้าสมาชิกสภาคองเกรสจากทั้งสองพรรค ตัวแทนจากเหล่าทัพ ตุลาการศาลสูง สมาชิกคณะรัฐมนตรี และแขกพิเศษมากมาย เมื่อค่ำวันพฤหัสบดี ชูผลงานด้านเศรษฐกิจและการปกป้องเสรีภาพอเมริกัน ก่อนศึกล้างตาไบเดน-ทรัมป์ในการเลือกตั้งปลายปีนี้
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ตนก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อนำพาประเทศก้าวผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา และเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของประเทศ
ปธน.ไบเดนกล่าวว่า “การกลับมาของอเมริกาคือการสร้างอนาคตแห่งโอกาสสำหรับชาวอเมริกัน สร้างเศรษฐกิจจากส่วนกลางและจากฐานล่างขึ้นไป ลงทุนในอเมริกากับชาวอเมริกันทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนมีโอกาสที่เท่าเทียมกันและเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
ปธน.ไบเดน ขึ้นกล่าวแถลงนโยบายและผลงานประจำปี เพื่อหวังโน้มน้าวใจชาวอเมริกันว่านโยบายของเขาได้ด้วยผลักดันเศรษฐกิจประเทศให้รุดหน้า ขณะที่ได้ปกป้องสิทธิเสรีภาพของชาวอเมริกันเอาไว้
ช่วงเวลาอันท้าทาย
การขึ้นแถลงนโยบายของเขายังเกิดขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยึดที่นั่งในฐานะตัวแทนพรรครีพับลิกันไว้ได้ในศึกหยั่งเสียงขั้นต้น Super Tuesday ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าจะเป็นการกลับมาฟาดฟันกันอีกครั้งระหว่างทรัมป์และไบเดนเพื่อชิงเก้าอี้ในทำเนียบขาว
นอกจากนี้ การแถลงนโยบายของไบเดน มีขึ้นในช่วงเวลาอันท้าทายสำหรับไบเดนในฐานะประธานาธิบดี เนื่องจากผลสำรวจล่าสุดของ Wall Street Journal ชี้ว่า ไบเดนมีคะแนนตามหลังทรัมป์อยู่เล็กน้อย แม้ว่าชาวอเมริกันจะมีมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้นก็ตาม
ผลสำรวจหลายสำนักในรัฐสมรภูมิต่างชี้ว่า ไบเดนมีคะแนนตามหลังคู่แข่งอย่างทรัมป์ด้วยเช่นกัน
โดยในค่ำคืนวันพฤหัสบดี ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่า “ตลอดชีวิตของผมได้สอนผมให้อ้าแขนรับเสรีภาพและประชาธิปไตย อนาคตที่ยึดถือตามคุณค่าของอเมริกา นั่นคือ ความซื่อสัตย์ ความสุภาพเหมาะสม ศักดิ์ศรี ความเท่าเทียมกัน ให้ความเคารพทุกคน ให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อไม่ให้ความเกลียดชังได้มีที่ยืน - ณ วันนี้ มีคนบางคนที่รุ่นราวคราวเดียวกับผมเห็นต่างออกไปว่าอเมริกาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง การแก้แค้น และการลงโทษ ซึ่งนั่นไม่ใช่ตัวผมเลย”
โจมตีทรัมป์ยอมอ่อนข้อให้รัสเซีย-ปลุกระดมมวลชน
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าววิจารณ์อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่ยอมคุกเข่าให้รัสเซีย ล้มเหลวในการรควบคุมโควิด-19 และปลุกระดมให้เกิดจลาจลต่อรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม
ไบเดนโจมตีทรัมป์ที่กล่าวเชื้อเชิญประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ให้บุกรุกประเทศสมาชิกองค์การนาโต้อื่นๆ ที่ไม่ยอมจ่ายเงินงบประมาณให้แก่นาโต้ตามเงื่อนไข โดยไบเดนระบุว่าเป็นคำพูดที่ "ร้ายแรง อันตรายและไม่อาจยอมรับได้"
ปธน.ไบเดน ซึ่งกำลังผลักดันให้รัฐสภาสหรัฐฯ จัดหาเงินช่วยเหลือก้อนใหม่ให้แก่ยูเครน ยังมีข้อความถึงปธน.ปูตินว่า "เราจะไม่ยอมเดินหนีไปเด็ดขาด"
ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ยังได้กล่าวโจมตีทรัมป์และสมาชิกพรรครีพับลิกันว่าพยายามเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ในเหตุการณ์จลาจลที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 เพื่อเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งที่ไบเดนได้รับชัยชนะ
ไบเดนกล่าวว่า "ประธานาธิบดีคนก่อนและพวกคุณบางคนที่อยู่ที่นี่พยายามกลบฝังความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 มกราคม แต่ผมจะไม่ทำเช่นนั้น" และว่า "คุณไม่สามารถรักประเทศของคุณเฉพาะเมื่อตอนที่คุณชนะได้"
ในขณะเดียวกัน ทรัมป์โพสต์ข้อความตอบโต้ทางสื่อสังคมออนไลน์ Truth Social ระหว่างที่ไบเดนกำลังกล่าวสุนทรพจน์ว่า "เขาดูเหมือนโกรธเกรี้ยวเวลาพูด ซึ่งเป็นลักษณะของคนที่รู้ตัวว่ากำลัง 'พ่ายแพ้' " และว่า "ความโกรธและการตะโกนเสียงดังมิได้ช่วยทำให้ประเทศนี้กลับมารวมกันได้อีกครั้ง!"
ส่วนประเด็นด้านสิทธิด้านอนามัยการเจริญพันธุ์นั้น ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญในสุนทรพจน์ของไบเดนในปีนี้ และอาจเป็นหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญในการเลือกตั้งปลายปีนี้เช่นกัน
โดยผู้นำสหรัฐฯ กล่าวย้ำว่า ตนจะนำสิทธิของผู้หญิงในการเข้าถึงการทำแท้ง ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญกลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากที่ศาลสูงสหรัฐฯ ตัดสิทธิดังกล่าวไปในคดี Roe v. Wade เมื่อปี 2022 และย้ำว่าเป็นหน้าที่ของชาวอเมริกันในการเลือกตัวแทนที่สนับสนุนสิทธิดังกล่าวเข้าสภาในการเลือกตั้งปีนี้
ทั้งนี้ การแถลงนโยบายและผลงานรัฐบาล หรือ State of the Union เป็นการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ประจำปีของผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญของผู้ดำรงตำเเหน่งประธานาธิบดี ที่จะแสดงวิสัยทัศน์ อธิบายถึงผลงานและนโยบายต่อรัฐสภา นอกจากนี้จะเป็นค่ำคืนที่มีสมาชิกฝ่ายตุลาการและกองทัพเข้าร่วมฟังอยู่ในห้องประชุมใหญ่ของสภาด้วย และเป็นข้อบังคับตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ที่ผู้นำคนปัจจุบันจะต้องขึ้นกล่าวแถลงนโยบายและผลงานรัฐบาลต่อคองเกรส และเน้นถึงเป้าหมายวิสัยทัศน์ของคณะรัฐบาลในทุก ๆ ปี
- ที่มา: วีโอเอ, รอยเตอร์
กระดานความเห็น