ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม พร้อมกล่าวประณามผู้นำรัสเซียในเหตุการณ์ที่ทหารรัสเซียถูกกล่าวหาว่า สังหารประชาชนในเมืองบูชาของยูเครนอย่างโหดร้าย
ปธน.ไบเดน กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ว่า ตนเคยถูกวิจารณ์อย่างหนักที่ออกมาเรียกปธน.ปูตินว่า "อาชญากรสงคราม" แต่สิ่งที่เกิดขึ้นที่เมืองบูชาคือหลักฐานยืนยันว่า ปูตินคืออาชญากรสงครามจริง ๆ ซึ่ง "เราต้องรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ ต่อไป"
ปธน.ไบเดน กล่าวว่า ปูตินคือบุคคลที่โหดเหี้ยมและสิ่งที่เกิดขึ้นที่เมืองบูชานั้นโหดร้ายรุนแรง ซึ่งตนจะต้องใช้มาตรการลงโทษเพิ่มเติมต่อรัสเซียอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน ไอรีนา เวเนดิคโตวา อัยการสูงสุดของยูเครน กล่าวว่า ศพประชาชน 410 ศพได้ถูกนำออกมาจากเมืองต่างๆ รอบกรุงเคียฟหลังจากที่กองทัพยูเครนสามารถยึดคืนเมืองเหล่านั้นคืนมาจากทหารรัสเซียได้
ประธานคณะกรรมการสหภาพยุโรป เออร์ชูลา วอน เดอ เลเยน ทวีตข้อความในวันจันทร์ว่า อียูจะส่งคณะผู้ตรวจสอบไปยูเครนเพื่อช่วยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมสงครามในครั้งนี้
ทางด้านประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เดินทางเยี่ยมเยือนเมืองบูชาในวันจันทร์ พร้อมกับกล่าวต่อประชาชนทางโทรทัศน์ว่า เวลานี้เป็นเรื่องยากที่จะเจรจาสันติภาพกับรัสเซียเนื่องจากความโหดร้ายที่กองทัพรัสเซียกระทำต่อชาวยูเครนเริ่มปรากฏออกมาชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงการมัดมือไพล่หลังแล้วยิงในระยะเผาขน การขุดหลุมฝังศพผู้คนจำนวนมาก และการทิ้งร่างไร้ชีวิตบนท้องถนนในเมืองบูชา
ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวว่า สิ่งเหล่านี้คืออาชญากรรมสงคราม และทั่วโลกจะจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนว่าเป็น "การสังหารล้างเผ่าพันธุ์"
ผู้นำยูเครนกล่าวว่า "เรารู้ว่ามีประชาชนยูเครนหลายพันหลายหมื่นคนที่ถูกทำทรมาน ได้รับบาดเจ็บสาหัส สตรีถูกข่มขืน และเด็กๆ จำนวนมากถูกสังหาร"
ประธานาธิบดีเซเลนสกีซึ่งเดินทางออกนอกกรุงเคียฟครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียรุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ กล่าวว่า "เป็นเรื่องยากที่จะเข้าสู่การเจรจาเมื่อคุณได้เห็นสิ่งที่พวกเขาทำกับเราที่นี่ และยิ่งรัสเซียพยายามยืดเยื้อการเจรจาดังกล่าวออกไปมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นผลร้ายต่อรัสเซียเองและต่อสถานการณ์ของสงครามในคร้ังนี้ด้วย"
อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลกรุงมอสโกออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการสังหารประชาชนในเมืองบูชา โดยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นที่เมืองบูชาและหลายพื้นที่ชานกรุงเคียฟว่า "การจัดฉาก" โดยกลุ่มที่ต่อต้านรัสเซีย
- ข้อมูลบางส่วนจากรอยเตอร์และเอพี