นานาชาติออกมาประณามรัสเซียเพิ่มขึ้น หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับความน่าจะเป็นที่กองทัพเครมลินได้ก่ออาชญากรรมสงครามที่บริเวณชานกรุงเคียฟ และหลายพื้นที่ของยูเครน พร้อมเรียกร้องให้มีการยกระดับการลงโทษมอสโกให้รุนแรงยิ่งขึ้นด้วย
ประธานสภายุโรป ชาลส์ มิเชล ทวีตข้อความออกมาในวันอาทิตย์ตามเวลาในยุโรปว่า กรุงมอสโกจะเผชิญ “กับการลงโทษเพิ่มเติมจากอียู” พร้อมระบุว่า ตนรู้สึก “ช็อกที่ได้เห็นภาพความโหดร้ายป่าเถื่อนหลอนตา ที่เกิดขึ้นจากเงื้อมมือของกองทัพรัสเซียในพื้นที่แคว้นอิสระของเคียฟ” ด้วย
ขณะเดียวกัน ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า รัฐบาลกรุงลอนดอนได้เห็น “หลักฐานที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับการกระทำอันน่ากลัวสยดสยองของกองกำลังที่เข้ารุกราน ตามเมืองต่างๆ เช่น เออร์พิน และ บูชา”
นายกเทศมนตรีเมืองบูชา อานาโตลี เฟโดรุค กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า พลเรือนในเมืองราว 300 คนถูกยิงในช่วงที่กองกำลังรัสเซียเข้ายึดครองพื้นที่ และมีศพคนราว 280 ศพ ถูกฝังรวมกัน ส่วนที่เหลือนั้นถูกทิ้งไว้ตามท้องถนน
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เมืองต่างๆ ที่ว่า ถูกบันทึกไว้เป็นทั้งคลิปวิดีโอและภาพนิ่ง และมีการแบ่งปันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ไปทั่วโลกแล้ว
คำเตือน: โพสต์ต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรง โปรดใช้พิจารณญาณในการรับชม
และขณะที่มีรายงานว่า นายกเทศมนตรี เฟโดรุค ระบุว่า ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นฝีมือของการยึดครองเมืองโดยรัสเซีย ทางฝ่ายเครมลินยังไม่ได้ออกมาตอบโต้รายงานดังกล่าว
ส่วนที่กรุงเคียฟ นายกเทศมนตรี วิตาลี คลิตช์โค บอกกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ บิลด์ ของเยอรมนี ว่า “คำเดียวจะเรียกทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่เมืองบูชาและพื้นที่ชานเมืองของกรุงเคียฟ ก็คือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” พร้อมระบุว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ขณะที่ รองนายกรัฐมนตรียูเครน ดมิโทร คูเลบา กล่าวด้วยว่า “การสังหารหมู่ในเมืองบูชานั้นเกิดขึ้นจากความจงใจ" และทวีตข้อความที่ระบุว่า ตนเรียกร้องให้ “กลุ่มจี-7 ดำเนินการลงโทษที่มีผลทำลายล้างชุดใหม่เดี๋ยวนี้” ด้วย
กลุ่มฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ เปิดเผยในวันอาทิตย์ด้วยว่า ทางองค์กรได้ “ทำการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการที่กองทัพรัสเซียละเมิดกฎหมายสงครามหลายต่อหลายครั้ง ในพื้นที่เมือง เชิร์นนิฮีฟ คาร์คีฟ และแคว้นเคียฟของยูเครน”
นอกจากนั้น รายงานขององค์กรแห่งนี้ยังมีรายละเอียดคำกล่าวหาต่อกองทัพรัสเซียว่าทำการข่มขืน และทำการสังหารแบบรวดรัดที่ส่งผลให้เหยื่อ 7 รายเสียชีวิต รวมทั้งทำการคุมคามและใช้ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ต่อพลเรือนด้วย