ข้อเสนอของฝ่ายอนุรักษ์นิยมในอเมริกาเรื่องการอนุญาตให้ประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ในเอเชียสามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่มหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมพ์ กล่าวระหว่างการหาเสียงนั้น อาจขยับเข้าใกล้ความจริงหาก โดนัลด์ ทรัมพ์ ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป และหมายถึงผลกระทบต่อความมั่นคงในเอเชีย
ระหว่างการรณรงค์หาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสนอให้อนุญาตญี่ปุ่นและเกาหลีใต้สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ พร้อมกับเสนอให้ถอนทหารออกจากประเทศที่ไม่ยินยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้น สำหรับประเทศที่สหรัฐฯมีฐานทัพอยู่ในประเทศนั้น
ปัจจุบัน มีทหารอเมริกันประจำอยู่ที่เกาหลีใต้ 28,500 คน และในญี่ปุ่น 54,000 คน โดยเกาหลีใต้จ่ายเงินให้รัฐบาลสหรัฐฯ ปีละ 866 ล้านดอลลาร์ ส่วนญี่ปุ่นให้เงินปีละราว 1,600 ล้านดอลลาร์ สำหรับการจัดตั้งฐานทัพของสหรัฐฯ
แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่า ข้อเสนอของทรัมพ์ ที่ต้องการให้ประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ในเอเชีย มีอาวุธนิวเคลียร์นั้น อาจเป็นการละเมิดข้อตกลงด้านการจำกัดการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์
คุณ มูน เกือน-ซิก แห่ง Korea Defense and Security Forum ระบุว่า หากพันธมิตรของสหรัฐฯ เริ่มติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์จริงดังที่ โดนัลด์ ทรัมพ์ กล่าวไว้ ความเป็นพันธมิตรอาจจะหมดไป และอาจนำไปสู่วิกฤติการณ์ด้านนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่องในเอเชีย
สถานการณ์ด้านนิวเคลียร์ในเอเชีย เริ่มต้นขึ้นเมื่อจีนได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง ตามด้วยโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งทำให้สหรัฐฯ สามารถโน้มน้าวให้ประเทศพันธมิตร คือ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ต้องหันมาพึ่งพาระบบป้องกันระเบิดปรมาณู หรือ nuclear umbrella ของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม การที่ โดนัลด์ ทรัมพ์ ขู่ว่าจะถอนทหารออกจากสองประเทศดังกล่าว อาจสอดคล้องกับแนวคิดของเสียงส่วนน้อยในรัฐสภาญี่ปุ่น และของสภาแห่งชาติเกาหลีใต้ ที่เห็นว่าประเทศตนควรมีศักยภาพด้านนิวเคลียร์เพื่อการป้องกันตนเอง มากกว่ารอพึ่งพาความช่วยเหลือจากอเมริกา
ศาสตราจารย์ ฮิโรชิ นูโนคาว่า แห่งมหาวิทยาลัยฮิโรชิม่า กล่าวว่า หากข้อเสนอของ โดนัลด์ ทรัมพ์ กลายเป็นความจริง จะมีนักการเมืองญี่ปุ่นจำนวนมากที่ยินดีและกระตือรือร้นที่จะทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นมหาอำนาจทางนิวเคลียร์
นักวิเคราะห์เชื่อว่า การติดอาวุธนิวเคลียร์ให้กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ จะทำให้โครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมีความชอบธรรมมากขึ้น และอาจทำให้จีนและรัสเซียยุติการสนับสนุนมาตรการลงโทษต่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ ซึ่งหมายความว่าภูมิภาคนี้จะยิ่งเพิ่มระดับความตึงเครียดยิ่งขึ้น
แม้ว่าขณะนี้ โดนัลด์ ทรัมพ์ ยังเป็นแค่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ดูเหมือนข้อเสนอของเขาในเรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดเสียงสะท้อนมากมายในเอเชีย และหลายคนเชื่อว่าข้อความที่ทรัมพ์สื่อออกมานั้น กำลังบ่อนทำลายความเชื่อมั่นที่มีต่อพันธะผูกพันของสหรัฐฯ ในเอเชีย
(ผู้สื่อข่าว Brian Padden รายงานจากเกาหลีใต้ / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)
