นาย Donald Trump ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปีนี้ กล่าวระหว่างการหาเสียงที่รัฐอินเดียน่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม เปรียบเทียบการที่สหรัฐฯ เสียดุลการค้าจำนวนมหาศาลกับจีนว่า "เหมือนกับถูกจีนข่มขืน"
นับเป็นครั้งแรกที่มีการใช้คำพูดดังกล่าวในการหาเสียงเลือกตั้ง ถึงแม้ว่านาย Donald Trump จะเคยใช้คำนี้มาแล้วเมื่อห้าปีก่อน ในการกล่าวหาจีนว่าควบคุมบงการเรื่องค่าเงินตราและการค้าก็ตาม
แต่คำพูดในฐานะนักการเมืองของนาย Donald Trump ทำให้บรรดาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตของจีน ออกมากล่าวเยาะเย้ยถากถาง Donald Trump ต่างๆ กัน เช่นผู้ใช้ Weibo รายหนึ่งเรียกนาย Donald Trump ว่าเป็นคนพูดพล่อยปากเสีย ที่พยายามหาคะแนนนิยมให้ตนเอง
ส่วนอีกรายหนึ่งก็ให้ความเห็นว่า การกล่าวว่าอเมริกาถูกจีนข่มขืนนั้นไม่เหมาะสม เพราะที่ถูกต้องแล้วควรพูดว่าจีนช่วยปลดปล่อยอเมริกาให้มีอิสระเสรีมากกว่า และมีบางคนที่กล่าวเปรียบเทียบนาย Donald Trump อย่างเสียดสีว่า เหมือนฮิตเลอร์ อดีตผู้เผด็จการนาซี และหาก Donald Trump ได้รับเลือกตั้งก็จะทำให้อเมริกายิ่งใหญ่และทรงพลังมากขึ้น
ส่วนอีกรายหนึ่งแสดงความกังวลว่า นโยบายที่ส่งเสริมการแยกตัวอย่างโดดเดี่ยวของ Donald Trump จะสร้างปัญหาต่อสินค้าออกของจีนที่ส่งไปขายในสหรัฐฯ และเรื่องนี้จะเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจและการสร้างงานของจีนได้
หนังสือพิมพ์ Wen Wei Po ในฮ่องกง แสดงความเห็นในบทบรรณาธิการว่า กระแสความสนใจ Donald Trump ในขณะนี้ สะท้อนถึงความขุ่นเคืองในสังคมอเมริกันเกี่ยวกับชนชั้นสูงผู้มีอำนาจและฐานะทางการเงินสูงกว่าคนทั่วไป
ส่วนอาจารย์ Zhu Feng ผู้สอนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งของจีน เรียกร้องให้นาย Donald Trump ละเว้นการใช้ถ้อยคำในทางยั่วยุ
และว่าในฐานะนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ Donald Trump ควรทราบดีว่าปัญหาเรื่องดุลการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนขณะนี้ เป็นผลจากกระบวนการโลกาภิวัฒน์ และจากข้อได้เปรียบเรื่องต้นทุนแรงงาน และปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งจีนมีอยู่เหนือสหรัฐฯ