แอมะซอน ไพรม์เดย์ (Amazon Prime Day) เริ่มขึ้นแล้วในวันอังคารที่ 16 ก.ค. ตามเวลาในสหรัฐฯ และจะมีไปถึงวันพุธ พร้อมกับสินค้าหลายประเภทที่นำมาลดราคากระหน่ำเพื่อเรียกเงินในกระเป๋าของบรรดานักช้อปออนไลน์ทั้งหลายที่เป็นสมาชิกพิเศษที่เรียกว่า Prime ของแอมะซอน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า วันลดราคาประจำปีของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชรายใหญ่นี้ อาจกลายเป็นช่องทางที่บรรดานักต้มตุ๋นหลอกลวงออนไลน์ หรือ สแกมเมอร์ ใช้หาประโยชน์จากบรรดาขาช้อปที่ไม่ระวังได้
Better Business Bureau เตือนว่า วิธีที่สแกมเมอร์นำมาใช้นั้นอาจรวมถึงการปลอมเป็นพนักงานของแอมะซอนเพื่อโทรไปหลอกลูกค้า การสร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูล้ายเว็บแอมะซอน การขึ้นโฆษณาทางสื่อสังคมออนไลน์เพื่อหลอกล่อไปยังเพจปลอม และการส่งอีเมล์ลวง เป็นต้น
จอช พลานอส รองประธานฝ่ายสื่อสารของ Better Business Bureau กล่าวกับเอพีว่า "งานอีเวนท์ลดราคาครั้งใหญ่ลักษณะนี้คือสวรรค์ของบรรดาสแกมเมอร์หรือนักหลอกลวง หรือแม้แต่ธุรกิจและองค์กรที่ไร้จรรยาบรรณทางการค้า ที่จะหาประโยชน์จากผู้บริโภค"
เมื่อเดือนมิถุนายน Better Business Bureau ตีพิมพ์รายงานว่าได้รับการร้องเรียนผู้ตกเป็นเหยื่อของสแกมเมอร์มากที่สุดเป็นสถิติใหม่เมื่อปีที่แล้ว และแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้
ขณะที่บริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ Check Point Software Technologies รายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้วมีเว็บไซต์ที่ระบุตัวเองว่าเป็นเครือข่ายของแอมะซอนเกิดขึ้นมากกว่า 1,230 เว็บไซต์ ส่วนใหญ่เป็นเว็บปลอมหรือมีความน่าสงสัย
สก็อตต์ แน็ปป์ ผู้อำนวยการฝ่ายป้องกันความเสี่ยงสำหรับผู้ซื้อของแอมะซอน ระบุว่า ในช่วงไพร์มเดย์เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ทางบริษัทพบการหลอกลวงสองจุดใหญ่ ๆ หนึ่งคือ การเป็นสมาชิกไพรม์ (Prime membership) และสองคือ การยืนยันคำสั่งซื้อ (order confirmation)
ตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้ว มีลูกค้าหลายคนโดนผู้ที่อ้างเป็นพนักงานของแอมะซอนโทรศัพท์ไปบอกว่าสมาชิกไพรม์ของพวกเขาเกิดเหตุขัดข้อง และขอข้อมูลบัญชีธนาคาร หรือการจ่ายเงินในรูปแบบอื่น ๆ หรือให้พวกเขากดยืนยันคำสั่งซื้อสินค้าราคาแพงที่ลูกค้ามิได้เป็นคนใส่ในตะกร้า เป็นต้น
คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หรือ FTC (Federal Trade Commission) เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้วมีผู้บริโภครายงานการถูกโกงเป็นมูลค่าราว 10,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหน้านั้น โดยที่การถูกสแกมผ่านการซื้อสินค้าออนไลน์นั้นมีการรายงานมากที่สุดเป็นอันดับสอง
ทั้ง FTC และ Better Business Bureau ต่างเตือนผู้บริโภคให้เลี่ยงการให้ข้อมูลทางการเงินต่อผู้ที่โทรศัพท์เข้ามา บล็อคข้อความที่ไม่ต้องการ และตรวจสอบลิงก์ต่าง ๆ ก่อนที่จะคลิกเข้าไป
นอกจากสแกมเมอร์แล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนให้ระวังสินค้าปลอมทางแอมะซอน รวมถึงรีวิวปลอมต่าง ๆ ของบรรดาผู้ขายสินค้าทางเว็บแอมะซอนด้วย
จอช พลานอส จาก Better Business Bureau เตือนว่า สินค้าปลอมมีการพัฒนารูปแบบและคุณภาพไปมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทำให้ยากที่จะตรวจสอบ โดยวิธีหนึ่งที่อาจใช้สังเกตได้คือ หากสินค้านั้นขายในราคาต่ำกว่า 75% ของราคาตลาด ให้คิดไว้ก่อนว่าอาจเป็นสินค้าปลอม
- ที่มา: เอพี
กระดานความเห็น