ทีมสอบสวนด้านการบินเดินทางถึงกรุงเทพฯ ในวันพุธ เพื่อเริ่มการสอบสวนกรณีเครื่องบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส ตกหลุมอากาศรุนแรง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน
ผู้โดยสารอย่างน้อย 20 ชีวิตยังคงเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เพราะบาดเจ็บสาหัสจากเหตุเที่ยวบิน SQ321 ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส เที่ยวบินจากกรุงลอนดอนมายังสิงคโปร์ ที่มีผู้โดยสาร 211 คน และลูกเรืออีก 18 คน ตกหลุมอากาศรุนแรงเมื่อวันอังคารบริเวณทะเลอันดามัน ตามการเปิดเผยของสายการบิน เป็นเหตุให้กัปตันตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ เพื่อนำตัวผู้บาดเจ็บกว่า 80 รายเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน
ทางสิงคโปร์แอร์ไลน์ส ส่งเที่ยวบินพิเศษมายังกรุงเทพฯ ในค่ำวันอังคารเพื่อรับผู้โดยสารที่สามารถเดินทางต่อได้ไปยังสิงคโปร์ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางเดิม ซึ่งผู้โดยสาร 131 ชีวิตและลูกเรืออีก 12 ชีวิตเดินทางถึงสนามบินชางงีโดยสวัสดิภาพเมื่อเวลา 05.00 น. ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่นของสิงคโปร์ ส่วนลูกเรือ 6 คน และผู้โดยสารอีก 79 คนยังคงอยู่ที่กรุงเทพฯ ตามการเปิดเผยของซีอีโอสิงคโปร์แอร์ไลน์ส โกห์ ชุน ฟง
ทางโรงพยาบาลสมิติเวช ที่ดูแลผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่จากเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศครั้งนี้ ระบุว่ามีผู้โดยสาร 20 คนอาการสาหัส และ 27 คนออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว โดยผู้ป่วยอาการสาหัสนั้น เป็นชาวอังกฤษ 6 ราย ชาวมาเลเซีย 6 ราย ออสเตรเลีย 3 ราย สิงคโปร์ 2 ราย และอีก 3 รายมาจากฮ่องกง นิวซีแลนด์ และฟิลิปปินส์
สำหรับผู้เสียชีวิต 1 ราย ทางการไทยไม่เปิดเผยชื่อ แต่สื่ออังกฤษระบุว่าผู้เสียชีวิต คือ เจฟฟรีย์ คิทเช่น วัย 73 ปี ซึ่งมีกำหนดเดินทางท่องเที่ยวกับภรรยาเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ทางเจ้าหน้าที่ของสนามบินสุวรรณภูมิเผยว่าคิทเช่น อาจเสียชีวิตเพราะหัวใจวาย แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ ด้านภรรยาของเขาเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ
ผู้โดยสารเที่ยวบิน SQ321 ต่างเปิดเผยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนห้องโดยสารในช่วงเกิดเหตุ อย่างจอช ซิลเวอร์สโตน ชาวอังกฤษวัย 24 ปีที่ออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันพุธ บอกว่าตนมีอาการบาดเจ็บไม่รุนแรง ก่อนที่จะพบว่าอาเจียนหนักจนหมดสติเมื่อไปถึงสนามบินเพื่อจะเดินทางต่อ
ด้านแอนดรูว์ เดวีส์ บอกกับ Sky News ว่าสัญญาณไฟเตือนรัดเข็มขัดเพิ่งปรากฎไม่นานก่อนตกหลุมอากาศรุนแรง แม้แต่ลูกเรือยังไม่มีเวลาพอที่จะกลับไปที่นั่งของพวกเขาเลย
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบความปลอดภัยด้านคมนาคมสิงคโปร์ เดินทางถึงกรุงเทพฯ ในค่ำวันอังคาร ตามการเปิดเผยของรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ชี ฮง ทัต เมื่อวันพุธ และสิงคโปร์ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากเป็นเหตุตกหลุมอากาศที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER
ทั้งนี้ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส ระบุว่า เที่ยวบินที่เกิดเหตุ มีผู้โดยสารชาวออสเตรเลีย 56 ราย แคนาดา 2 ราย เยอรมนี 1 ราย อินเดีย 3 ราย อินโดนีเซีย 3 ราย ไอส์แลนด์ 1 ราย ไอร์แลนด์ 4 ราย อิสราเอล 1 ราย มาเลเซีย 16 ราย เมียนมา 2 ราย นิวซีแลนด์ 23 ราย ฟิลิปปินส์ 5 ราย สิงคโปร์ 41 ราย เกาหลีใต้ 1 ราย สเปน 2 ราย อังกฤษ 47 ราย และสหรัฐฯ อีก 4 ราย
- ที่มา: เอพี
กระดานความเห็น