การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลีย ในวันอังคารนี้ ถูกขโมยซีนด้วยคำถามถึงผู้นำสิงคโปร์ กรณีทำข้อตกลงกับเทย์เลอร์ สวิฟต์ ศิลปินดังระดับโลก ให้ใช้สิงคโปร์เป็นสถานที่เดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับการทำคอนเสิร์ต ตามการรายงานของเอพี
มีการคาดการณ์ว่าการประชุมที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียในช่วงวันที่ 4-6 มีนาคมนี้ จะหยิบยกประเด็นเรื่องวิกฤตมนุษยธรรมในเมียนมาและความขัดแย้งในพื้นที่ทะเลจีนใต้ขึ้นมาเป็นประเด็นพูดคุยหลัก
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ถูกซักถามอย่างหนักไปที่ ลี เซียน ลุง ผู้นำของสิงคโปร์ หนึ่งชาติสมาชิกสำคัญของอาเซียน กลับเป็นเรื่องการทำข้อตกลงให้สวิฟต์แสดงคอนเสิร์ต Eras Tour จำนวน 6 รอบ ระหว่างวันที่ 2-9 มีนาคม ที่สิงคโปร์เพียงแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผู้นำสิงคโปร์กล่าวในวันอังคารว่าฝ่ายของสวิฟต์ได้รับ “สิ่งจูงใจบางอย่าง” เพื่อแลกกับการแสดงคอนเสิร์ตในสิงคโปร์ที่เดียวเท่านั้นในภูมิภาค แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งใช้งบประมาณรัฐจากแผนการฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังการระบาดของโควิด-19 ระบาด มีมูลค่าเท่าใด
ลี เซียน ลุง กล่าวว่า หากเขาไม่สามารถปิดข้อตกลงกับสวิฟต์ได้ก่อน ก็จะมีประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ปิดดีลในลักษณะเดียวกัน แต่ก็ระบุด้วยว่า “มันเป็นความตกลงที่สำเร็จมาก ๆ ผมไม่ได้มองว่าเป็นสิ่งที่ไม่เป็นมิตร”
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดถึง โดยระบุว่ามีผู้จัดงานคนหนึ่งมาบอกเขาว่า รัฐบาลสิงคโปร์ให้เงินอุดหนุนคอนเสิร์ตของสวิฟต์รอบละ 2-3 ล้านดอลลาร์ แลกกับการไม่ไปแสดงที่ประเทศอื่นในภูมิภาค และมั่นใจว่าไทยสามารถทำสิ่งเดียวกันได้หากรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดการตกลงกันในลักษณะนี้
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีไทย กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ว่า ไทยมองสิงคโปร์ในฐานะตัวอย่าง และทั้งไทยกับสิงคโปร์ก็ต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และมองว่าการทำข้อตกลงเช่นนั้น ถือเป็น “ไอเดียทางธุรกิจที่ดี”
ในเดือนกุมภาพันธ์ ซานเดียกา อูโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของอินโดนีเซีย กล่าวขอโทษแฟนเพลงผ่านทางอินสตาแกรมว่า ไม่สามารถนำสวิฟต์มาจัดแสดงคอนเสิร์ตที่อินโดนีเซียได้ เนื่องจากคิวการแสดงของเธอ “ถูกกว้านซื้อโดยสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นบทเรียนสำหรับพวกเรา”
เรซา คริสตี แฟนเพลงของสวิฟต์ที่อาศัยในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่าเธอเสียใจที่คอนเสิร์ตที่ใกล้ที่สุดของศิลปินที่รักไปจัดถึงสิงคโปร์ แต่ก็เชื่อว่ามีศักยภาพและโครงสร้างพื้นฐานของสิงคโปร์เท่านั้นที่สามารถจัดงานได้ตามมาตรฐานของศิลปินระดับโลกรายนี้ในภูมิภาคนี้
Eras Tour ปีนี้ ได้ทำลายสถิติรายได้ 1 พันล้านดอลลาร์ของปีที่แล้ว นอกจากนั้นภาพยนตร์ที่สร้างจากการทัวร์คอนเสิร์ตดังกล่าวก็ได้รับความนิยมขึ้นอันดับ 1 ของบ็อกซ์ออฟฟิศ และเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากคอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
- ที่มา: เอพี
กระดานความเห็น