เครื่องบินของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส ประสบเหตุตกหลุมอากาศรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บหลายสิบคน และต้องขอลงจอดฉุกเฉินที่กรุงเทพฯ ในวันอังคาร
เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ลำนี้มีผู้โดยสาร 211 คน และพนักงาน 18 คน เดินทางออกจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานชางงีในสิงคโปร์ ก่อนที่จะขอลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 03:51 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานแถลงการณ์ของสายการบิน ระบุว่า "สิงคโปร์แอร์ไลน์สขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต เราขอโทษอย่างยิ่งต่อประสบการณ์อันบอบช้ำที่เกิดกับผู้โดยสารและพนักงานบนเที่ยวบินนี้" พร้อมยืนยันว่ากำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยเพื่อจัดหาความช่วยเหลือต่าง ๆ
ตัวเลขผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ยังแตกต่างกันไป โดยทางสายการบินและนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวกับรอยเตอร์ว่า มีผู้โดยสารชายเสียชีวิตหนึ่งคน และผู้บาดเจ็บ 30 คนถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ด้านข้อมูลจากโรงพยาบาลสมิติเวช ระบุว่าได้ทำการรักษาผู้บาดเจ็บ 71 รายจากอุบัติเหตุนี้
เว็บไซต์ติดตามเส้นทางการบิน FlightRadar 24 ระบุว่า เมื่อเวลา 07:49 น. ตามเวลาสากล เครื่องบินลำดังกล่าวเชิดหัวขึ้นก่อนที่จะดิ่งจากระดับความสูง 37,000 ฟุตลงมาที่ 31,000 ฟุต ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
ผู้โดยสารผู้หนึ่งซึ่งเป็นนักศึกษาวัย 28 ปี กล่าวกับรอยเตอร์ว่า "เครื่องบินทะยานขึ้นก่อนที่จะส่ายอย่างรุนแรงและดิ่งลงมาอย่างรวดเร็วจนผู้โดยสารที่ไม่ได้คาดเข็มขัดตัวลอยติดเพดานเครื่อง บางคนกระแทกศีรษะกับที่เก็บสัมภาระด้านบนจนบุบ"
สิงคโปร์แอร์ไสน์ส คือหนึ่งในสายการบินชั้นนำของโลกซึ่งได้รับการยอมรับในหลายด้าน และไม่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงใด ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยครั้งล่าสุดนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2000 เมื่อเครื่องบินลำหนึ่งของสายการบินนี้ชนกับอุปกรณ์ก่อสร้างที่สนามบินระหว่างประเทศในกรุงไทเป ไต้หวัน ขณะวิ่งผิดรันเวย์และพยายามขึ้นบิน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 83 คนในครั้งนั้น
คณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่า เหตุการณ์ตกหลุมอากาศนั้นเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดระหว่างการเดินทางด้วยเครื่องบิน โดยระหว่างปี 2009 - 2018 มีอุบัติเหตุจากการตกหลุมอากาศมากกว่า 1 ใน 3 ของอุบัติเหตุทางเครื่องบินทั้งหมด และทำให้มีผู้บาดเจ็บมากที่สุด
ข้อมูลจาก องค์การบริหารการบินของรัฐบาลสหรัฐฯ (FAA) ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2022 นั้น เหตุการณ์เครื่องบินตกหลุมอากาศทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงต่อผู้ที่อยู่บนเครื่องบินถึง 163 ราย โดยส่วนใหญ่นั้นเป็นลูกเรือ
การศึกษาโดย Advancing Earth and Space Sciences ระบุว่า เกิดเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศรุนแรงเพิ่มขึ้นถึง 55% ระหว่างปี 1979 และ 2020 เหนือมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ ซึ่งอาจเป็นเพราะผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำเป็นเสียงเดียวกันว่า การรัดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลา คือ วิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันตนเอง และอย่าลืมใส่ใจต่อคำเตือนของลูกเรือตลอดการเดินทาง เพื่อจะได้ถึงจุดหมายโดยปลอดภัย
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น