นักวิทยาศาสตร์จากยูเครน กล่าวว่า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ส่งผลให้มีโลมาตายไปเป็น จำนวนมากถึง 50,000 ตัว
นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า พบซากโลมาตายเกยตื้นที่ชายหาดทะเลดำในตุรกี บัลแกเรีย โรมาเนีย และยูเครน นับตั้งแต่วันแรกที่เกิดสงครามรัสเซียรุกรานยูเครน
รัสลาน สตริเลทส์ รัฐมนตรีกระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรแห่งชาติของยูเครน ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า “เฉพาะในพื้นที่ของยูเครน พบซากโลมาราว 150 ตัว และจากข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการจากผู้เชี่ยวชาญบางท่าน ระบุว่าตัวเลขของซากโลมาเหล่านี้อาจจะสูงถึงหลักหลายพันตัวเลยทีเดียว”
เจ้าหน้าที่จากยูเครนเชื่อว่าเป็นการยากที่จะประเมินจำนวนโลมาที่ตายลงทั้งหมดอันเป็นผลสืบเนื่องจากสงครามที่เกิดขึ้น
ทางด้าน อีวาน รูเซฟ นักชีววิทยาจากอุทยานธรรมชาติแห่งชาติทัซลิฟสกี ลีมานี (Tuzlivski Lymani National Nature Park) กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวดูเหมือนจะสูงจนน่าตกใจ และเชื่อว่ามีสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมตายไปแล้วประมาณ 50,000 ตัวในช่วงที่เกิดการทำสงคราม
นักชีววิทยาผู้นี้กล่าวว่า สัญญาณโซนาร์จากเรือของทหารในพื้นที่มีส่วนที่ทำให้เกิดความเสียหาย พร้อมอธิบายว่า “สัญญาณโซนาร์ที่มีพลังงานสูงได้ส่งผลกระทบต่อระบบการสื่อสารด้วยเสียงที่เหล่าโลมาใช้งาน พวกมันจึงมีอาการคล้ายตาบอด ไม่สามารถบอกได้ว่าต้องเดินทางไปที่ไหน มีอะไรอยู่รอบตัว และไม่สามารถออกหาอาหารได้”
เกร็ก กลาส อาจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งฟลอริดา (University of Florida) แสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนโลมาที่ตายลง โดยระบุว่า “การที่เราเห็นจำนวน (โลมาตาย) เพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เกิดการรุกราน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาร้ายแรงที่เกิดขึ้นอันเกิดจากสงคราม”
รูเซฟ นักชีววิทยา ยังชี้ไปที่ปัญหาการระเบิดเหมืองซึ่งเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการตายของเหล่าโลมา เขาบอกว่า “นักวิทยาศาสตร์ไม่เคยพบเห็นโลมาตายจำนวนมากขนาดนี้ในทะเลดำ นับเป็นจำนวนหลายร้อยตัว โดยพวกมันมีชีวิตต่อไปได้เพียงไม่กี่วันหลังเกิดการกระทบกระเทือนอย่างหนักก่อนที่จะตายลง”
แม้จะพบซากโลมาจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ของยูเครนกล่าวว่า การช่วยชีวิตพวกมันในระหว่างสงครามเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์ของยูเครนตั้งความหวังที่จะสร้างศูนย์ฟื้นฟูพิเศษสำหรับโลมา หลังสงครามสิ้นสุดลง
- ที่มา: วีโอเอ