เจสัน สตาร์ค ชาวอเมริกันในรัฐคอนเนตทิคัต ได้ขับรถจากบ้านราวครึ่งชั่วโมง พาลูกชายสองคนวัย 9 และ 6 ขวบ ไปชมภาพยนตร์ที่เจาะกลุ่มวัยเยาว์อย่าง The Super Mario Bros ที่โรงภาพยนตร์ในเครือ AMC ที่ฉายหนังเรื่องนี้ผ่านจอพิเศษขนาดใหญ่อย่างจอ IMAX
เจสันเล่าว่า ลูก ๆ ต่างชอบใจอย่างมาก และทึ่งในความใหญ่โตของขนาดจอ
ผู้สร้างภาพยนตร์และเหล่าธุรกิจโรงภาพยนตร์ชั้นนำต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้ชมกำลังมองหาประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าสนใจในการชมภาพยนตร์ ในปีนี้ยอดขายตั๋วชมภาพยนตร์ของทั้งในสหรัฐฯและแคนาดาลดลง 16% เมื่อเทียบกับยอดของปี 2019 แต่กลับพบว่าภาพยนตร์ที่ใช้เทคนิคพิเศษอย่างเรื่อง Top Gun: Maverick และ Avatar: The Way of Water ดึงผู้ชมจำนวนมากเข้าสู่โรงหนัง
จิม ออร์ ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายของบริษัท Universal Pictures ในสหรัฐฯ ให้ทัศนะว่า "กลุ่มคนที่รู้สึกตื่นเต้นในการชมภาพยนตร์ในโรงหนัง พวกเขาต้องการสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุด และเปี่ยมด้วยประสบการณ์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
โรงภาพยนตร์ต่างใช้เทคโนโลยีเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้น ทั้งการใช้จอฉายหนังที่ใหญ่ขึ้น ระบบเสียงแบบพิเศษ ที่นั่งซึ่งสามารถขยับตอบสนองตามเนื้อเรื่อง และการใช้เทคนิคพิเศษเสริมบรรยากาศต่าง ๆบริษัทวิจัยตลาด Comscore คาดว่าการฉายแบบพิเศษ ช่วยเพิ่มยอดขายตั๋วภาพยนต์ในสหรัฐฯ ได้ราว 16.7% เมื่อเทียบกับ 9.2% ในปี 2019
ธุรกิจโรงภาพยนตร์เดินหน้าที่จะติดตั้งจอฉายขนาดใหญ่ และเรียกมันว่าเป็นรูปแบบการฉายพิเศษ อ้างอิงตัวเลขจากบริษัทวิจัย Omdia พบว่า ในปี 2022 โรงหนังแบบฉายพิเศษในทวีปอเมริกาเหนือมีมากถึง 1940 แห่ง สูงขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับปี 2021การฉายแบบพิเศษนี้ รวมถึงจอประเภท IMAX และจอขนาดใหญ่พิเศษที่ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทในธุรกิจโรงภาพยนตร์
ปกติแล้วราคาตั๋วเฉลี่ยเพื่อชมภาพยนตร์ในสหรัฐฯ จะอยู่ที่ประมาณ 11 ดอลลาร์ และการฉายแบบพิเศษนี้ มักที่จะมีราคาสูงขึ้นราว 5 ถึง 7 ดอลลาร์
เครือบริษัท B&B ที่ดำเนินธุรกิจโรงภาพยนตร์จำนวน 531 แห่งใน 14 รัฐ ได้นำเสนอการฉายแบบพิเศษ ผ่านลูกเล่นต่าง ๆ เช่น เก้าอี้ปรับอุณหภูมิ ระบบเสียงเสมือนจริง และเก้าอี้ที่ขยับได้สอดคล้องกับเรื่องราวบนจอ
บร็อค แบ็กบี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเนื้อหา การจัดผัง และการพัฒนาของเครือบริษัท B&B กล่าวว่า “ในยุคหลังโควิด ยอดขายตั๋วการฉายแบบพิเศษพุ่งสูงขึ้นกว่าในอดีต” แบ็กบีบอกว่า สำหรับโรงภาพยนตร์ที่มีหลายโรงในหนึ่งสาขา หรือประเภทมัลติเพล็กซ์ (multiplex) พบว่ารายได้ประมาณครึ่งหนึ่งมาจากการฉายแบบพิเศษ และเมื่อย้อนกลับไปก่อนเกิดการระบาดใหญ่ สัดส่วนนี้อยู่ที่ราว 30% เท่านั้นริชาร์ด เกลฟอนด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท IMAX Corp กล่าวว่าความสนใจในรูปแบบจอ IMAX เพิ่มขึ้นทั่วโลก เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ในปี 2023 นี้บริษัทของเขาได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อติดตั้งและปรับปรุงจอฉายภาพยนตร์ไปแล้วจำนวน 62 ฉบับ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ายอดทั้งหมดของปี 2022 และคาดว่าในปีนี้ รายได้รวมที่เกิดจากการฉายภาพยนตร์ผ่านจอ IMAX จะแตะระดับเท่ากับก่อนยุคโควิด
อีกสัญญาณที่น่าจับตา คือเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์ในฮอลลีวูด ได้ผลิตภาพยนตร์แนวแอคชันและเต็มไปด้วยลูกเล่นมากขึ้น สำหรับเกลฟอนด์ เขามองว่าคนต้องการที่จะชมภาพยนตร์ลักษณะนี้ผ่านจอ IMAX และมันจะกลายเป็นประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นทั่วโลกเจฟฟ์ บ็อค จากบริษัทวิจัย Exhibitor Relations มองว่า ในช่วงฤดูร้อนนี้ จะเป็นบททดสอบว่าการฉายแบบพิเศษเป็นที่ต้องการของเหล่าผู้ชมมากน้อยแค่ไหน โดยมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าคิวรอฉายผ่านจอขนาดใหญ่ ทั้ง Guardians of the Galaxy Vol. 3 ในเดือนพฤษภาคม Oppenheimer ในเดือนกรกฏาคม และ The Meg 2 ในเดือนสิงหาคม
บ็อคเล่าทิ้งท้ายว่า หลังจากช่วงดังกล่าว แผนการฉายจะเต็มไปด้วยภาพยนตร์แนวดรามา ที่ไม่ได้อิงการสร้างความตื่นเต้นผ่านจอขนาดใหญ่มากนัก
- ที่มา: รอยเตอร์