ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 อุตสาหกรรมภาพยนตร์มีความหวังที่จะกลับเข้าสู่ความเป็นปกติอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่จำนวนหลายเรื่อง พร้อมทั้งเตรียมจัดงานมอบรางวัลต่าง ๆ ให้กลับมาอยู่ในตารางเช่นเดิม
เป็นเวลาราว 3 ปีแล้ว ที่การระบาดของโควิด -19 ตั้งแต่ต้นปี 2020 ส่งผลต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ ที่ผ่านมาโรงภาพยนตร์ได้รับผลกระทบเป็นจุดแรก โดยธุรกิจไม่สามารถเปิดทำการได้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านสถานที่ ทำให้ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ หรือที่เรียกกันว่าภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์จำนวนหลายเรื่อง ต้องเลื่อนฉายออกไป
ในภาพรวม ผู้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์และงานประกาศรางวัล อย่างเช่น ออสการ์ ต่างตั้งความหวังที่จะเห็นสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ธุรกิจโรงภาพยนตร์มีการจัดกิจกรรมด้านการตลาด เพื่อดึงให้คนกลับมาที่โรงภาพยนตร์อีกครั้ง
ตัวอย่างเช่น เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการจัดงานวันภาพยนตร์แห่งชาติ หรือ National Cinema Day โดยที่ผู้ชมสามารถซื้อตั๋วหนังได้ในราคาเพียง 3 ดอลลาร์ เจ้าของธุรกิจโรงหนังหวังว่ากิจกรรมเหล่านี้ จะทำให้ผู้บริโภคกลับมาชมภาพยนตร์ในโรงหนังอีกครั้ง เพราะในช่วงปลายปี มีภาพยนตร์ที่รอฉายอยู่เป็นจำนวนมาก
ไรอัน จอห์นสัน ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Glass Onion: A Knives out Mystery ที่เปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์โตรอนโตช่วงต้นเดือนนี้ ให้ความเห็นว่า งานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องแรกเมื่อปี 2019 ในงานเทศกาลเดียวกัน ดูเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ทั้งที่ในความเป็นจริงผ่านมาแล้วหลายปี การระบาดของโควิด-19 เกือบที่จะทำให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์ต้องปิดตัวลงไป
สัญญาณเชิงบวกที่ทำให้เห็นว่า ผู้บริโภคพร้อมที่จะกลับมาในโรงหนัง คือความสำเร็จของ Top Gun: Maverick ที่กวาดรายได้ทั่วโลก ในช่วงฤดูร้อนไปมากถึง 1,360 ล้านดอลลาร์ และยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนในช่วงปลายปี บรรดาค่ายหนังมักวางแผนที่จะปล่อยผลงานที่คาดว่าจะคว้ารางวัลจากเวทีต่าง ๆ
จอห์นสัน กล่าวเสริมว่า “คนในวงการหนัง พยายามที่จะเอาตัวรอด เพื่อหวังจะกลับไปสู่สิ่งที่เคยเป็น”
ภาพยนตร์เรื่อง Glass Onion ของผู้กำกับจอห์สัน ได้ถูกบริษัทสตรีมมิ่งวิดีโอ Netflix ซื้อไป พร้อมทั้งสิทธิ์ในการสร้างเป็นซีรีส์ในอนาคต ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างการเปลี่ยนของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ปัจจุบันธุรกิจ บริการสตรีมมิ่ง Netflix มีขนาดที่ใหญ่กว่าในอดีต
หากย้อนกลับไป ภาพยนตร์ภาคต่อมักที่จะได้รับเงินทุนสนับสนุนจำนวนมาก อีกทั้งโรงภาพยนตร์จะช่วยเพิ่มรอบฉายให้ แต่สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Glass Onion ภายใต้การดูแลของ Netflix สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ มีการฉายในโรงภาพยนตร์อย่างจำกัด และจะเปิดให้ชมผ่านบริการสตรีมมิ่งในวันที่ 23 ธันวาคมที่จะถึงนี้
ทางด้าน จอห์น ฟิเธน ประธานสมาคมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ National Association of Theater Owners ให้ความเห็นว่า บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ในฮอลลีวูดไม่ควรที่จะลังเลใจ ขณะนี้โรงภาพยนตร์ต้องการหนังเข้าฉายอย่างรวดเร็ว ในจำนวนที่มากขึ้น ฟิเธนชี้ว่า “จำนวนของผู้ชมในโรงภาพยนตร์ กลับมาอยู่ในระดับที่ไม่ต่างจากช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่แล้ว”
โปรแกรมฉายในปีนี้ มีภาพยนตร์หลากหลายรูปแบบที่จะมาสร้างสีสันและดึงให้ผู้ชมเดินเข้าโรงภาพยนตร์ เช่น Woman King เรื่องราวของกองทัพนักรบหญิงในแอฟริกา จินา พรินซ์ – ไบรธ์วูด ผู้กำกับชี้ว่าความน่าสนใจของเรื่องนี้ คือการนำประวัติศาสตร์ของนักสู้หญิง ที่มักจะไม่ได้รับความสนใจ ถูกเก็บซ่อนไว้ หรือลบทิ้งจากหน้าประวัติศาสตร์ มาถ่ายทอด
อีกเรื่องคือ Bros ภาพยนตร์โรแมนติกคอมมาดี้ สะท้อนเรื่องราวของกลุ่ม LGBTQ+ ที่นำแสดงโดย บิลลี อิชเนอร์ ภาพยนตร์เรื่อง She Said ที่อิงจากหนังสือของ 2 นักข่าวชาวอเมริกัน ที่ร่วมกันเปิดโปงอาชญากรรมทางเพศของ ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ผู้สร้างหนังชื่อดังในฮอลลีวูด ซึ่งปัจจุบันนี้ไวน์สตีนถูกจำคุกจากคดีฉาวดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีภาพยนตร์อีกจำนวนมากที่รอการเข้าฉาย อย่างเช่น ปลายเดือนกันยายน Blonde หนังเกี่ยวกับดาราดัง มาริลิน มอนโร เดือนตุลาคม Ticket to Paradise ที่มีจอร์จ คลูนี่ย์และจูเลีย โรเบิร์ตส์แสดงนำ เดือนพฤศจิกายน The Fablemans จากผู้กำกับสตีเวน สปีลเบิร์ก และในเดือนเดียวกันนั้น ยังมีหนังซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ Black Panther: Wakanda Forever ส่วนเดือนธันวาคม เป็นโปรแกรมฉายของหนังฟอร์มใหญ่ส่งท้ายปี Avatar: The Way of Water
จอห์น แลนดัว โปรดิวเซอร์ของ Avatar: The Way of Water ชี้ว่านี่คือภาพยนตร์ Avatar เรื่องแรก จากจำนวน 4 เรื่องที่จะเข้าฉายในช่วง 5 ปีนี้ และเป็นการกลับมาของภาพยนตร์เรื่อง Avatar ในรอบเกือบ 14 ปี
