สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานคำกล่าวของผู้ว่าการเขตปกครองมีโคลาอีฟในยูเครน ซึ่งระบุว่า รัสเซียมุ่งเน้นโจมตีเป้าหมายที่เป็นแหล่งอาหารและพื้นที่การเกษตรในยูเครน เพื่อขู่ขวัญชาวโลกให้เห็นด้วยกับข้อตกลงเปิดช่องทางการขนส่งในทะเลดำตามที่รัสเซียต้องการ
วิตาเลีย คิม ผู้ว่าการเขตปกครองมีโคลาอีฟ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตอาหารขนาดใหญ่ของยูเครนที่มีโกดังเก็บพืชผลทางการเกษตรแห่งหนึ่งถูกโจมตีเสียหายเมื่อวันอาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลรัสเซียต้องการทำให้ปัญหาขาดแคลนอาหารกลายเป็น "หายนะครั้งใหญ่" ทั่วโลก
ผู้ว่าฯ คิม ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ในวันพุธว่า "รัสเซียต้องการทำเช่นนั้นเพราะต้องการกดดันให้มีการเปิดทะเลดำ" ซึ่งจะนำไปสู่การต่อรองให้ผ่อนคลายมาตรการลงโทษรัสเซียแลกกับการขนส่งพืชผลต่าง ๆ ออกไปยังตลาดโลก
นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ยูเครนได้กล่าวหารัสเซียอย่างต่อเนื่องว่าเน้นโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรเพื่อสร้างวิกฤติด้านอาหารและกดดันชาติตะวันตก
แต่รัฐบาลกรุงมอสโกกล่าวหากลับว่า มาตรการลงโทษของชาติตะวันตกและการที่ยูเครนฝังทุ่นระเบิดไว้ใต้ทะเล คือสาเหตุที่ทำให้การส่งออกอาการของรัสเซียลดลง ส่งผลให้ราคาอาหารสูงขึ้นในตลาดโลก
คำกล่าวของผู้ว่าการเขตปกครองมีโคลาอีฟต่อรอยเตอร์ มีขึ้นในขณะที่ตุรกีกำลังพยายามเจรจากับรัสเซียให้มีการเปิดช่องทางการขนส่งธัญพืชจากท่าเรือในทะเลดำเพื่อผ่อนเพลาวิกฤติอาหารโลก แต่กลับเผชิญอุปสรรคและเงื่อนไขที่ไม่สมเหตุสมผลจากทางรัสเซีย
ทางยูเครนระบุว่า รัสเซียต้องการให้มีการยกเลิกมาตรการลงโทษบางส่วนแลกกับการขนส่งอาหารออกจากทะเลดำ
แต่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวในวันพุธว่า ยูเครนคือผู้ที่ต้องแก้ไขจัดการปัญหานี้ด้วยการทำลายทุ่นระเบิดใต้ทะเลเสียก่อน รวมทั้งกล่าวหาชาติตะวันตกด้วยว่า กล่าวเกินจริงเกี่ยวกับความสำคัญของอาหารที่ยูเครนส่งออกไปตลาดโลก
ทั้งนี้ ยูเครนคือผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก และมีท่าเรือสำหรับส่งออกสินค้าอยู่หลายสิบแห่งตลอดแนวชายฝั่งทะเลดำ ที่ซึ่งถูกรัสเซียยิงปืนใหญ่โจมตีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รัสเซียใช้วิธีปิดกั้นเส้นทางการขนส่งทางทะเลของยูเครนเช่นกัน
- ที่มา: รอยเตอร์