นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ร้องขอต่อผู้เข้าร่วมประชุม World Economic Forum (WEF) ที่จัดขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์ ให้เดินหน้าสนับสนุนการต่อสู้รับมือกับกองทัพรัสเซีย และยืนยันว่า ยูเครนนั้น คือ “กุญแจแห่งเสรีภาพในโลก”
วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวในวันพฤหัสบดีด้วยว่า ยูเครนเป็นประเทศที่มีสันติสุขและไม่เคยมีท่าทีรุกรานผู้ใด ขณะที่ ชาวยูเครนนั้นต้องการที่จะ “เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวยุโรป” โดยให้ความสำคัญในเรื่องของสิทธิมนุษยชน เสรีภาพสื่อ และ “มาตรฐานชีวิตตามระบอบประชาธิปไตย” เป็นลำดับต้น ๆ ด้วย
คลิตช์โก กล่าวว่า รัฐบาลรัสเซียนั้นต้องการจะฟื้นคืนชีพสหภาพโซเวียต และจะไม่ยอมหยุดยั้งแผนการยึดครองยูเครนเป็นอันขาด พร้อมระบุว่า “เราจะปกป้องไม่เพียงแต่ครอบครัวและเด็ก ๆ ของพวกเรา เราจะปกป้องทุกท่าน เพราะเราล้วนยึดมั่นในคุณค่าเดียวกัน”
นอกจากนั้น นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟยังได้ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนทางการเมือง เศรษฐกิจ และอาวุธต่อยูเครน รวมทั้ง ประเทศที่ช่วยรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนไว้ด้วย
นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลาฟ โชลซ์ คือ ผู้ที่ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีที่ประชุม World Economic Forum ในวันพฤหัสบดีเช่นกัน โดยกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน “ต้องไม่ได้รับชัยชนะในสงครามของเขา และข้าพเจ้ามั่นใจว่า เขาจะไม่มีทางชนะ”
นายกฯ โชลซ์ กล่าวด้วยว่า ปธน.ปูติน ไม่น่าจะจริงจังในการร่วมเจรจากับยูเครน หากผู้นำรัสเซียยอมรับว่า มอสโกจะไม่ได้ชัยชนะในครั้งนี้ ซึ่งประเด็นดังกล่าวตอกย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนยูเครนจากโลกตะวันตกยิ่งเข้าไปอีก
นอกจากนั้น ผู้นำเยอรมนีประกาศว่า รัสเซียไม่ควรจะมีโอกาสที่จะกำหนดเงื่อนไขของข้อตกลงสันติภาพ พร้อมระบุว่า “ยูเครนจะไม่ยอมรับในจุดนี้ และเราก็จะไม่ยอมเช่นกัน”
เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประกาศปฏิเสธแนวคิดที่แนะให้ยูเครนยอมยกพื้นที่บางส่วนของประเทศให้กับรัสเซีย เพื่อให้บรรลุข้อตกลงสันติภาพ และกล่าวว่า ผู้ที่เสนอความคิดเช่นนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญต่อ “ผู้คนนับล้านที่ใช้ชีวิตอยู่ในอาณาเขตที่ว่า เพียงเพื่อให้ได้แลกมาซึ่งภาพลวงตาของสันติภาพ”
ปธน.เซเลนสกี กล่าวด้วยว่า “เราต้องคิดถึงประชาชนเสมอ และต้องระลึกถึงคุณค่าทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดเท่านั้น”
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การสู้รบในยูเครนนั้นเกิดขึ้นในพื้นที่แคว้นดอนบาส ทางภาคตะวันออกของประเทศเป็นหลัก โดยพื้นที่ดังกล่าวคือ ส่วนที่รัสเซียพยายามยึดครองหลังจากไม่สามารถโค่นปธน.เซเลนสกี หรือยึดกรุงเคียฟได้สำเร็จ
เซอร์ฮีย์ กายดาย ผู้ว่าการเขตปกครองลูฮันสก์ บรรยายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ เมืองเซเวโรดอแนตสก์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมของเขตนี้ว่า อยู่ในภาวะ “ยากลำบากมาก” และกล่าวว่า ได้มี “การสู้รบที่บริเวณแถบชานเมืองขึ้นแล้วด้วย”
กายดาย ระบุว่า “กองทหารรัสเซียได้รุกคืบเข้ามาใกล้มากพอที่จะยิงปืนครก” เข้าใส่ได้
ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรป อังกฤษ และสหรัฐฯ ร่วมกันประกาศการก่อตั้งสิ่งที่เรียกว่าเป็น Atrocity Crimes Advisory Group หรือ กลุ่มที่ปรึกษาด้านอาชญากรรมแห่งความป่าเถื่อน ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ประสานงานกับยูเครนในการสืบสวนกรณีอาชญากรรมสงครามที่เกิดจากน้ำมือของรัสเซียในช่วง 3 เดือนของการทำสงครามรุกรานยูเครน
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์