แม้เศรษฐกิจของประเทศไทยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมา แต่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นสถิติใหม่ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุขกังวลใจถึงสถานการณ์ปัจจุบันอยู่
ธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติราว 500,000คนที่ฉีดวัคซีนแล้วได้เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยตั้งแต่รัฐบาลไทยทำการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิดที่มีความรุนแรงขึ้น พร้อมกับการกลับมาของนักท่องเที่ยวนั้นยังทำให้หลายคนรู้สึกลำบากใจ
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)ได้กล่าวว่า ขณะนี้ ประเทศไทยได้มาถึงทางแยกสำคัญ เพราะแม้จำนวนยอดผู้ติดเชื้อโควิดจะเพิ่มขึ้น แต่แพทย์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าอาการของป่วยโควิดนั้นไม่รุนแรงเท่ากับการระบาดระลอกก่อนหน้านี้
หากมองย้อนไปเมื่อปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยมีการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดมาก รวมทั้งการใช้เคอร์ฟิวอยู่หลายเดือน แต่พอมาถึงช่วงสิ้นปี ซึ่งขณะนั้นมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนจำนวนมากในแต่ละวัน กฎที่เคร่งครัดเหล่านี้ก็ถูกผ่อนปรนไป
ในขณะนี้ ระดับการระบาดของโควิดในประเทศไทยไต่ขึ้นมาถึงระดับ 4 ซึ่งเป็นสองระดับรองจากขั้นสูงสุด แต่รัฐบาลไทยยังเลือกที่จะไม่ใช้มาตรการล็อคดาวน์แต่อย่างใด
โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลรายงานว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีพ.ศ.2564 ได้ฟื้นตัวและโตขึ้นถึง 1.9% เพราะการกลับมาของนักท่องเที่ยวและธุรกิจส่งออกที่ดีขึ้น แต่ผู้ก่อตั้งบริษัท Travelfish.org. ที่ให้คำแนะนำด้านท่องเที่ยวอย่าง สจ๊วต แม็คโดนัลด์ เตือนว่า จำนวนผู้ติดโควิดที่สูงขึ้นในไทยอาจทำให้นักท่องเที่ยวคิดทบทวนว่าจะมาเที่ยวเมืองไทยดีหรือไม่
สจ๊วต บอกกับวีโอเอเอว่า “(โควิด) ได้ทำให้สถานการณ์ปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และทางการไทยก็มีประวัติในการเปลี่ยนกฎและเพิ่มกฎต่างๆสำหรับนักท่องเที่ยวในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งกฎเหล่านี้ก็มักจะไม่ชัดเจนหรือไม่คำนึงถึงความกังวลทางด้านสาธารณสุขด้วย”
รัฐบาลไทยได้เปลี่ยนกฎในการเข้าประเทศหลายครั้งตั้งแต่มีการเปิดประเทศมา ซ้ำเมื่อสายพันธุ์โอมิครอนระบาดอย่างหนักในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ทำการระงับโปรแกรม Test&Go ชั่วคราวซึ่งเป็นโปรแกรมที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วกักตัวเพียงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะไปไหนมาไหนในไทยได้ตามอัธยาศัย
ทั้งนี้ กฎการเข้าประเทศก็ได้ถูกปรับอีกครั้งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยกฎใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนั้นได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วกักตัวเพียงแค่หนึ่งวัน หลังจากที่นักท่องเที่ยวเหล่านั้นได้รับผลการตรวจโควิดเป็นลบเมื่อเดินทางมาถึงเมืองไทยในวันแรก และเมื่ออยู่ประเทศไทยไปจนถึงวันที่ 5 นักท่องเที่ยวสามารถตรวจโควิดด้วยตนเองได้ซึ่งต่างจากฎก่อนหน้านี้ที่นักท่องเที่ยวต้องกลับมากักตัวและไปตรวจโควิดที่สถานตรวจหรือโรงพยาบาล
บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ ประวิตร โรจนพฤกษ์ แสดงความคิดเห็นว่า ประเทศไทยควรปรับกลยุทธ์และวางแผนให้ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกับโคโรนาไวรัสได้ เขากล่าวว่า “รัฐบาลแทบจะไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะประกาศให้ประเทศเปิดแบบกึ่งล็อคดาวน์ได้ เพราะในช่วงสองปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ใช้เงินจำนวนมากไปกับมาตรการช่วยเหลือโควิดแล้ว ดังนั้น การเพิ่มกฎที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการระบาดอีกจะส่งผลกระทบต่อโปรแกรม Test&Go และภาคธุรกิจท่องเที่ยว”
อย่างไรก็ตาม ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เทคโนโลยีนั้นจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยกระจายวัคซีนและสามารถช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสได้ดีด้วย โดยเขาแนะนำว่า รัฐบาลควรที่จะให้ชุดตรวจโควิดที่บ้านแก่ประชาชนและรณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัยต่อเพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้ดียิ่งขึ้น