“ ตอนนั้น แม่อยู่ห้องไอซียูแล้ว อยู่ในโรงพยาบาล ไปถึงก็คิดว่าจะกักตัวแล้วก็ออกไปทันดูใจแกไง ทีนี้พอไปถึงปุ๊บพอเครื่องลง เข้าโรงแรมเสร็จปุ๊บ คนที่บ้านก็โทรมาบอกว่าแม่เสียแล้ว เราก็ออกไปไม่ทันดูใจแกก็ต้องกักตัว”
นิรดา คุณารักษ์กิจ ชาวไทยในเมืองมอนโรเวีย (Monrovia) รัฐแคลิฟอร์เนีย รับทราบข่าวร้ายที่สุดในชีวิต หลังจากเธอต้องบินด่วนกลับเมืองไทยเพื่อเยี่ยมแม่ที่ป่วยหนัก แต่จำเป็นต้องกักตัวอยู่ในที่พักตามมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 เมื่อหลายเดือนก่อน
“กว่าเราจะจองตั๋วกลับ กว่าเราจะขอเอกสารจากสถานทูตฯ กว่าจะผ่านขั้นตอนตรงนี้ มันก็เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์น่ะ แล้วก็พอไปถึงก็คิดว่าจะไปทันทันเยี่ยม แต่ปรากฏว่าก็ไม่ทัน ..
..พี่ฉีดวัคซีนไปสองเข็มแล้ว ตอนนั้นน่ะ ฉีดวัคซีนไปครบแล้ว เลยบอก (เจ้าหน้าที่) ว่า ขออนุโลมได้ไหม เพราะว่าแม่ป่วย พยายามคุยกับเจ้าหน้าที่หลายๆคน แต่ว่าเขาไม่มีใครสนใจเรา เพราะเขาต้องรอคำสั่งจากทางราชการ ใช่ป่าว? ทุกคนต้องปฏิบัติเหมือนกัน เราก็จะไม่ได้สิทธิพิเศษอะไร” นิรดา กล่าวกับ 'วีโอเอ ไทย'
ความจำเป็นเร่งด่วนทางครอบครัว ไม่ใช่ข้อยกเว้น ในสภาวะการระบาดใหญ่ แม้เธอจะเข้าใจและพยายามเตรียมตัวให้ดีที่สุดและเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ช้าเกินไปสำหรับการพบหน้าเพื่ออำลา เป็นครั้งสุดท้าย
“ ตอนนั้นก็คิดโกรธแล้วนะ ว่าถ้าไม่กักตัวน่ะ พอลงจากเครื่องปุ๊บแล้วก็ต้องไปหาแม่เลย อันนี้มาติดกักตัวแบบนี้ก็เสียใจนะ...เพราะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอเขาไง”
ประสบการณ์ความสูญเสียของนิรดา สะท้อนสภาวะความยากลำบากของช่วงการระบาดใหญ่ที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับเงื่อนไขการใช้ชีวิตที่ไม่ปกติ แต่ นิรดา ยืนยันว่า การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับโควิด-19 อย่างปลอดภัยและไม่ตื่นตระหนกเกินไปคือสิ่งจำเป็น
การประกาศมาตรการของทางการไทยที่ยกเว้นการกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศจำนวน 14 วันสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็ม และมีผลตรวจโควิดเป็นลบ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จึงเป็นสิ่งที่นิรดาแสดงความเห็นด้วย
“พี่ว่าต้องเปิดแล้วล่ะ เพราะถ้าไม่เปิดแล้วเมื่อไหร่จะเปิด? คือตอนนี้วัคซีน ทุกคนก็เริ่มได้รับกันแล้วนะ อย่างน้อยๆ เนี่ยเข็มแรกเนี่ยที่เมืองไทยที่ดูข่าว เข็มแรกก็รับกันไปเยอะ แล้วบางส่วนก็รับถึงเข็ม 2 เข็ม 3 อะไรกันแล้ว แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือคนไทยแต่ละคนก็ต้องมีวินัยของตัวเองที่จะป้องกันโรคพวกนี้ ต้องทำความเข้าใจกับโรค ว่าเราควรจะป้องกันอะไร” นิรดา แสดงจุดยืนเกี่ียวกับการเปิดประเทศ
ขณะที่ชาวไทยในนครลอสแอนเจลิสจำนวนไม่น้อย ต่างดีใจกับมาตรการและเงื่อนไขใหม่ที่ทางการไทยเปิดต้อนรับนักเดินทางจากต่างประเทศอีกครั้ง แม้จะยังมีความกังวลบ้างกับการรับมือการระบาด รวมถึงการฉีดวัคซีน
เสาวลักษณ์ แสงเถกิง ชาวไทยในนครลอส แอนเจลิส บอกถึงความกังวลที่ทำให้เธอยังต้องตัดสินใจว่าจะเดินทางกลับเมืองไทยหรือไม่
“รู้สึกว่าดี หนึ่ง คือ ไม่ต้องกักตัว ไม่ต้องเสียเวลา 14 วัน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ว่าข้อไม่ดีก็คือว่าเราไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามันจะเซฟ (ปลอดภัย)หรือเปล่ากับการไม่กักตัว เพราะว่าที่เมืองไทย ไม่แน่ใจว่าจะถึง 90 เปอร์เซ็นต์ไหมที่ฉีดวัคซีน แต่สำหรับในอเมริกาตอนนี้น่าจะ 80- 90 เปอร์เซ็นต์แล้วที่ฉีดแล้วกัน คือเราไม่มั่นใจที่เมืองไทย มันมีสองแง่คือมันดีกับเราที่ไม่ต้องเสียเวลา”
ขณะที่ สุรัสวดี ทอมป์สัน ชาวไทย ลอส แอนเจลิส ชาวไทยนครลอส แอนเจลิส อีกคนแสดงความเชื่อมั่นในมาตรการเปิดประเทศในครั้งนี้
“ประเทศเราก็ต้องการเศรษฐกิจที่ดีขึ้น คือเม็ดเงินที่มันเข้าประเทศก็ส่วนมาก โดยส่วนมากนะคะคิดว่ามาจากนักท่องเที่ยว แล้วก็คนที่เข้าไป ในส่วนนั้นถ้ารัฐบาลแก้ไขปัญหาในเรื่องวัคซีนทั่วถึงทุกคนทั่วถึงนะคะ มันก็จะดีขึ้น ก็จะไม่กังวลเรื่องเปิดประเทศค่ะ แต่ก็ห่วงนิดนึงสำหรับพวกที่เดินทางเข้าออกแล้วก็การกักตัวแล้วก็คือขอให้เป็นไปตามระบบระเบียบอย่างถูกต้องไม่ใช่ว่าไม่ไม่แคร์คนอื่นจะเอาแต่ตัวเองคนเดียวฝ่ายเดียวมันก็ไม่ใช่ ไม่ได้..
..ถ้าเปิดประเทศเศรษฐกิจก็จะดีขึ้น มันก็จะช่วยกันทั้งสองฝ่าย ทุกคนก็ต้องระวังตัวเองด้วย ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ช่วยกันในตรงนี้ เพราะว่าเราก็ต้องการให้เศรษฐกิจมันเดิน ก้าวขึ้นไปอีก เพราะว่าตอนนี้ประเทศไทยส่วนมากก็ลำบากย่ำแย่แล้วค่ะ”
ขณะที่ Donn Ho ชาวอเมริกันในลอส แอนเจลิส ซึ่งที่มีญาติอยู่ในประเทศไทย บอกว่า แม้จะมีความรู้สึกกังวล กับการระบาดของโควิดในไทย แต่ก็เตรียมวางแผนจะเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวในเดือนหน้า โดยจะเตรียมมาตรการป้องกันให้ดีที่สุด
ภายใต้มาตรการใหม่ของทางการไทย ผู้โดย สารที่เดินทางเข้าประเทศจะต้องมีต้นทางจากประเทศที่อยู่ในรายชื่อ 63 ประเทศความเสี่ยงต่ำ โดยจะต้องเป็นผู้ได้รับวัคซีนครบทั้งสองเข็ม และเข้าพักคืนแรกภายในโรงแรมที่ได้รับการอนุมัติเพื่อรอยืนยันผลตรวจโควิด-19 อีกครั้ง ก่อนจะเดินทางท่องเที่ยวได้
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ทางการไทยคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ ราว 1 แสน 8 หมื่นคน และเพิ่มเป็น 7 ล้านคนในปีหน้า หลังจากที่ตัวเลขล่าสุดเมื่อ พ.ศ. 2562 อยู่ที่ 40 ล้านคน
ขณะที่สถานการณ์การระบาดในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อ 1.9 ล้านราย ผู้เสียชีวิตจากโรคโคโรนาไวรัสกว่า 19,000 ราย ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมีจำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีนแล้ว ประมาณร้อยละ 42