ผู้นำรัสเซียและจีนกล่าวว่า การเพิ่มมาตรการลงโทษต่อเกาหลีเหนือนั้นอาจไม่ได้ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีได้มากนัก พร้อมกับส่งสัญญาณเตือนว่าอาจเกิดหายนะครั้งใหญ่หากมีการใช้มาตรการทางทหารต่อเกาหลีเหนือ
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวในวันอังคารว่า ชาวเกาหลีเหนือจะยอม “กินหญ้า” มากกว่ายกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ หากยังรู้สึกว่าพวกตนไม่ปลอดภัย และว่าการเพิ่มมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือนั้นไม่ได้ช่วยอะไร และจะไม่มีผลให้มีการเปลี่ยนระบอบผู้นำของเกาหลีเหนือได้
ผู้นำรัสเซียยังเตือนด้วยว่า หากวิกฤติการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีลุกลามไปเป็นสงคราม ก็จะก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ระดับโลก และทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตผู้คนมากมายมหาศาล
คำกล่าวของ ปธน.ปูติน มีขึ้นระหว่างการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ที่ประเทศจีน โดยมี 5 ประเทศเข้าร่วม ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และอาฟริกาใต้
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่ากำลังมีการพิจารณาที่จะใช้การคว่ำบาตรการค้ากับทุกประเทศที่ทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็อาจจะรวมถึงจีน ที่เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญที่สุดกับเกาหลีเหนือด้วย
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเน้นย้ำจุดยืนของจีน ที่ต้องการให้มีการเจรจาอย่างสันติกับเกาหลีเหนือ และมีการส่งสัญญาณว่าจีนยินดีที่จะเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยให้เกิดการเจรจาดังกล่าวขึ้น
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า ปักกิ่งยินดีที่จะหารือกับสหประชาชาติเกี่ยวกับการใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจชุดใหม่ต่อเกาหลีเหนือเช่นกัน โดยกล่าวว่าจีนอาจปรับเปลี่ยนจากจุดยืนในเบื้องต้น ที่ต้องการให้มีการเจรจาอย่างสันติ ไปเป็นการใช้มาตรการอื่นๆ ได้ ขึ้นอยู่กับการหารือและการตัดสินใจของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ
ที่ผ่านมา ท่าทีของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ค่อนข้างนิ่งสงบหลังจากเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์เมื่อวันอาทิตย์ และดูเหมือนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมกลุ่ม BRICS มากกว่า
ตรงกันข้ามกับท่าทีของประธานาธิบดีปูติน ที่ได้แถลงข่าวและตอบคำถามผู้สื่อข่าวในเรื่องเกาหลีเหนืออย่างชัดเจน รวมถึงประเด็นอื่นๆ เช่น ความขัดแย้งทางการทูตกับรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วย
ปธน. ปูติน กล่าวว่าตนจะพบหารือกับผู้นำญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในวันพุธและวันพฤหัสบดีนี้ที่เมือง Vladivostok ของรัสเซีย โดยมีประเด็นสำคัญในการหารือคือวิกฤติการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี
นักวิเคราะห์เชื่อว่า การที่รัสเซียออกมาแสดงบทบาทมากขึ้นในเรื่องเกาหลีเหนือ ไม่ใช่เพราะต้องการแข่งขันกับจีน แต่เชื่อว่ารัสเซียกำลังใช้เกาหลีเหนือเป็นเครื่องมือในการตอบโต้และเอาคืนสหรัฐฯ
ถึงกระนั้น ศาสตราจารย์ Ramesh Thakur ผอ.ศูนย์เพื่อการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ ที่มหาวิทยาลัย Australian National University ยังแสดงความสงสัยต่ออิทธิพลของรัสเซียและจีนที่มีต่อเกาหลีเหนือ
โดยนักวิเคราะห์ผู้นี้ชี้ว่า การที่เกาหลีเหนือทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ในช่วงที่มีการประชุมกลุ่ม BRICS ในประเทศจีน ซึ่งผู้นำรัสเซียเข้าร่วมด้วยนั้น อาจเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนือไม่ฟังใคร แม้แต่ประเทศผู้อุปถัมภ์ทั้งสองประเทศ คือจีนกับรัสเซีย ก็ตาม
(ผู้สื่อข่าว William Ide และ Saibal Dasgupta รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)