Your browser doesn’t support HTML5
ผลการวิจัยระบุว่ามีเชื้อไวรัส Zika อยู่ในตาของผู้ที่ติดเชื้อโรค ทำให้มีความวิตกกังวลว่าอาจส่งผลเกี่ยวกับการแพร่เชื้อและการติดเชื้อได้อีกทางหนึ่งด้วย
ราวๆ หนึ่งในสามของเด็กเกิดใหม่ที่ติดเชื้อไวรัส Zika มีอาการตาอักเสบ บางคนถึงกับตาพิการ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า มีผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อโรคนี้มากถึง 15% ที่มีอาการตาติดเชื้อ รวมทั้งม่านตาและเยื่อบุตาอักเสบด้วย
นักวิจัยจึงกลับไปศึกษาดูหนูที่ใช้ในการทดลองเชื้อ Zika และพบว่าหนูเหล่านั้นมีอาการตาอักเสบอย่างแพร่หลาย
ศาสตราจารย์ Michael Diamond ซึ่งสอนวิชา Molecular Biology ที่มหาวิทยาลัย Washington ในเมืองเซ็นต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี่ บอกว่าหลายๆ ส่วนของตา กระจกตา ม่านตา และเยื่อชั้นในของลูกตา หรือจอภาพของตา ดูจะมีเชื้อไวรัสนี้ทั้งนั้น โดยเฉพาะแซลล์เนื้อเยื่อและของเหลวในตา
จึงทำให้สงสัยว่า จะมีเชื้อไวรัสหรือเชื้อพันธุ์ RNA อยู่ในน้ำตาด้วยหรือไม่
นักวิจัยในทีมงานนี้พบเชื้อพันธุ์ไวรัส Zika ในน้ำตาของหนู 28 วัน หลังจากที่นักวิจัยแพร่เชื้อไวรัสให้กับหนู
เป็นที่รู้กันแล้วว่า ของเหลวในร่างกายของผู้ที่ติดเชื้อ Zika ซึ่งรวมทั้งน้ำอสุจิและน้ำลายมีเชื้อไวรัสนี้ และอาจติดต่อถึงผู้อื่นได้ แต่นักวิจัยไม่สามารถใช้น้ำตาของหนูที่มีเชื้อพันธุ์ RNA ของ Zika แพร่เชื้อนี้ให้กับหนูตัวอื่นๆ ได้
ศาสตราจารย์ Michael Diamond และทีมงานกำลังเก็บตัวอย่างน้ำตามนุษย์จากประเทศต่างๆ ในแถบลาตินอเมริกา เปอโตริโก้ และรัฐฟลอริด้าในสหรัฐ ซึ่งมีผู้ป่วยหรือผู้ที่ติดเชื้อ Zika มาทดลอง เพื่อให้รู้ว่าน้ำตามีเชื้อโรคนี้มากพอที่จะแพร่เชื้อได้หรือไม่
และถึงจะแพร่ไม่ได้ ก็อาจใช้น้ำตาสำหรับการวินิจฉัยโรคนี้ได้ โดยจะเป็นวิธีที่ง่ายและไม่เจ็บปวดแต่อย่างใดด้วย
รายงานการวิจัยเรื่องนี้ ตีพิมพ์ไว้แล้วในวารสาร Cell Reports