อุตุนิยมวิทยาโลกชี้ปีที่แล้วเป็นปีที่ร้อนที่สุด แล้งที่สุด และฝนตกหนักที่สุดในหลายพื้นที่

This image shows the satellite sea surface temperature departure for the month of October 2015, where orange-red colors are above normal temperatures and are indicative of El Niño.

องค์กรอุตุนิยมวิทยาโลกรายงานว่าปีที่แล้วคือปีที่ทำลายสถิติใหม่หลายด้านเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ

Your browser doesn’t support HTML5

World Climate

องค์กรอุตุนิยมวิทยาโลกหรือ WMO ชี้ว่า ภาวะโลกร้อนกำลังเกิดขึ้นในอัตราที่รวดเร็วกว่าที่คาดกันไว้มาก ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณมลพิษที่เพิ่มขึ้นในชั้นบรรยากาศโลกซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดปรากฎการณ์เรือนกระจก ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

รายงานของ WMO พบว่าอุณหภูมิพื้นผิวโลกโดยเฉลี่ยเมื่อปีที่แล้ว สูงกว่าสถิติเดิมอย่างมาก และปรากฎการณ์ดังกล่าวยังดำเนินต่อเนื่องมาถึงเดือน ม.ค และ ก.พ ของปีนี้ ซึ่งทำให้เกิดเป็นสถิติใหม่ของทั้งสองเดือนดังกล่าวด้วย

เลขาธิการของ WMO นาย Petteri Taalas ระบุว่าอุณหภูมิโลกในปัจจุบันสูงกว่าระดับอุณหภูมิของเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 ราว 1 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่ามาถึงครึ่งทางของระดับอุณหภูมิที่สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม 2 องศาเซลเซียส ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นระดับที่อันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก

เลขาธิการของ WMO กล่าวว่าแนวโน้มอุณหภูมิที่สูงขึ้นนี้จะดำเนินต่อไปโดยไม่มีทีท่าจะลดลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปรากฎการณ์เอลนีโญ่ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อปีที่แล้วและต่อเนื่องมาถึงปีนี้ และหากอุณหภูมิเฉลี่ยพื้นผิวโลกเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม 2 องศาเซลเซียสเมื่อไร ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศแบบรุนแรงสุดขั้วมากขึ้นและบ่อยครั้งขึ้น

These false-color images provided by NASA satellites compare warm Pacific Ocean water temperatures from the strong El Nino that brought North America large amounts of rainfall in 1997, left, and the current El Nino as of Oct. 1, 2015, right.

รายงานขององค์กรอุตุนิยมวิทยาโลกระบุด้วยว่า เมื่อปีที่แล้วระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นมากที่สุดเป็นสถิติใหม่ ขณะที่ปริมาณน้ำแข็งแถบทะเลอาร์กติกก็ลดลงอยู่ที่ระดับต่ำสุดเมื่อเดือน ก.พ ปีที่แล้ว และยิ่งลดลงอีกในเดือน ก.พ ปีนี้

รายงานยังระบุถึงคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมในหลายทวีปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงเอเชีย อเมริกาใต้ ยุโรป ตลอดจนบางส่วนของสหรัฐฯ และแคนาดา ก่อให้เกิดไฟป่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในหลายพื้นที่

นอกจากนี้ ปี ค.ศ. 2015 ยังเป็นปีที่มีฝนตกหนักที่สุดในหลายประเทศ เช่น ในแถบอาฟริกา ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในมาลาวีอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่บางประเทศในอาฟริกา เช่น เอธิโอเปีย กลับมีความแห้งแล้งอย่างรุนแรง จนเกิดผลเสียต่อพืชผลทางการเกษตรและสุขภาพของประชาชน

เลขาธิการของ WMO นาย Petteri Taalas คาดการณ์ว่าระดับอุณหภูมิโลกที่สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม 2 องศาเซลเซียสนั้น จะเกิดขึ้นภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้หลายสิบปี

ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ประเทศต่างๆ จะร่วมมือเพื่อหยุดยั้งการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศ และช่วยกันแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง ก่อนที่จะสายเกินไป

(ผู้สื่อข่าว Lisa Schlein รายงานจากนครเจนีวา / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)