Your browser doesn’t support HTML5
World AIDS Day หรือวันเอดส์โลก มีจุดมุ่งหมายให้เป็นโอกาสได้แสดงการสนับสนุนผู้ติดเชื้อไวรัส HIV และผู้ที่ป่วยเป็นโรคเอดส์ รวมทั้งรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วเพราะโรคนี้ และการมุ่งหน้าต่อสู้เพื่อจะเอาชนะโรคระบาดนี้ให้ได้ต่อไป
Michel Sidibe ผู้อำนวยการบริหารโครงการ AIDS ขององค์การสหประชาชาติกล่าวว่า ยังมีผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยที่ต้องการรับการบำบัดรักษาอีก 22 ล้านคน ซึ่งหมายความว่ายังมีงานต้องทำกันอีกมาก เพราะถ้าหยุด โรคนี้จะกลับมาระบาดได้อีก
รายงานของสหประชาชาติกล่าวว่า ขณะนี้มีคน 37 ล้านคนในโลก ที่ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยด้วยโรคเอดส์ ในจำนวนนี้ มี 16 ล้านคนที่ได้รับยาต้านเอดส์
รายงานฉบับนี้กล่าวต่อไปว่า ถ้าผู้ป่วยทุกคนได้รับยาต้านเอดส์ จะป้องกันการเสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวกับเอดส์ได้มากถึง 21 ล้านคน และการติดเชื้อรายใหม่ๆ อีก 28 ล้านคน ภายในเวลา 15 ปีข้างหน้า
ในขณะเดียวกัน กองทุนเด็กของสหประชาชาติเผยแพร่รายงานจากการศึกษาวิจัยนานสองปีที่ระบุว่า อัตราการติดเชื้อไวรัส HIV ที่ทำให้เป็นเอดส์ในหมู่วัยรุ่นในภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ได้เพิ่มสูงขึ้นมากจนเป็นที่น่าตกใจว่าโรคเอดส์จะกลับมาระบาดใหม่อีกครั้งหนึ่งได้
Wing-Sie Cheng ที่ปรึกษาของ UNICEF ประจำภาคพื้นในเรื่องเชื้อ HIV และโรคเอดส์ กล่าวว่า กำลังมีการระบาดของโรคนี้แอบแฝงอยู่ในหมู่วัยรุ่น ที่เรียกว่าเป็นการแอบแฝงก็เพราะคนกลุ่มนี้ ซึ่งอยู่ในวัยระหว่าง 15-19 ปี ส่วนใหญ่ไปรับการตรวจไม่ได้
เพราะแนวทางปฏิบัติกำหนดไว้ว่า ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องได้รับอนุญาตจากบิดามารดาเสียก่อน
รายงานของ UNICEF กล่าวว่า การที่อัตราการติดเชื้อในกลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้นจนเป็นที่น่าตกใจ สืบเนื่องมาจากพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงในเรื่องเพศ และการไม่ใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอ
ในเรื่องพฤติกรรมทางเพศที่สุ่มเสี่ยงนั้น รายงานของสหประชาชาติฉบับนี้กล่าวโทษเทคโนโลยี smartphone ว่าเป็นเครื่องมือเพิ่มโอกาสการนัดพบและการมีเพศสัมพันธ์ง่ายๆ ของวัยรุ่นเป็นอย่างดี
รายงานของ UNICEF ที่เผยแพร่ออกมาประมาณว่า ในปีที่แล้ว มีวัยรุ่นในกลุ่มอายุนี้ราวๆ 50,000 คนที่ติดเชื้อไวรัส HIV ซึ่งเท่ากับ 15% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด แม้ว่าอัตราการติดเชื้อรายใหม่โดยรวมจะลดลง
เฉพาะในอินโดนีเซีย รายงานฉบับนี้ประมาณว่ามีวัยรุ่นติดเชื้อ HIV รายใหม่มากกว่า 40,000 คน และประเทศไทยตามมาเป็นที่สองด้วยจำนวนเกือบ 10,000 คน
ตัวเลขโดยรวมทั้งภูมิภาคสำหรับวัยรุ่นที่ติดเชื้อไวรัส HIV ในขณะนี้เท่ากับ 220,000 คน โดย 98% ของคนเหล่านี้กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ดังต่อไปนี้ คือ กัมพูชา จีน อินเดีย อินโดนีเซีย พม่า ปากีสถาน ปาปัวนิวกินี ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย และเวียดนาม
แหล่งการติดเชื้อรายใหม่มักอยู่ตามเมืองใหญ่ๆ เช่นกรุงเทพมหานคร ฮานอย และจาการ์ต้า
Wing-Sie Cheng เจ้าหน้าที่ของ UNICEF กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้รัฐบาลในภูมิภาคจึงจะต้องหาทางตอบสนองคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ
รายงานของสหประชาชาติเรียกร้องให้มีการพัฒนาข้อมูลเกี่ยวกับวัยรุ่น จัดทำวิธีป้องกันการติดเชื้อ กำหนดนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวกับวัยรุ่นโดยเฉพาะ รวมทั้งบทบัญญัติที่อนุญาตให้คนกลุ่มนี้เข้ารับการตรวจสอบเชื้อ HIV และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคเอดส์ได้โดยอิสระ