นาย Mitchell Warren กล่าวว่าเอเเว็ค (AVAC) มุ่งเร่งพัฒนาด้านจรรยาบรรณและการนำวิธีป้องกันเอดส์ใหม่ๆ ไปใช้รับมือกับโรคในประเทศต่างๆ ทั่วโลกจริงๆ โดยงานทั้งสองด้านนี้จะเป็นส่วนหนึ่ึ่งของแผนการรับมือกับโรคเอดส์แผนหลัก
เขากล่าวว่าปีพุทธศักราช 2558 นี้จะเป็นปีแห่งการหล่อหลอมแนวทางการรับมือกับโรคเอดส์ เขากล่าวว่าโลกประสบปัญหาการระบาดของเอดส์มานานกว่า 34 ปีแล้ว ปีนี้เป็นปีที่สำคัญในการแสดงให้เห็นว่าเราเดินมาถูกทางแล้วในการพยายามหยุดยั้งการระบาดของโรคเอดส์ได้ในที่สุด หรือว่าเรายังจะทำงานกันปีต่อปีกันต่อไปโดยไม่รู้ชัดเจนว่าจะประสบผลสำเร็จหรือไม่
นาย Warren กล่าวว่าหากยังจำกันได้ ย้อนไปเมื่อปีพุทธศักราช 2553 ผลการทดลองทางคลีนิคพิสูจน์เบื้องต้นว่าเจลต้านไวรัสเอดส์ tenofovir ช่วยป้องกันผู้หญิงในประเทศแอฟริกาใต้จากการติดเชื้อเอชไอวีได้ส่วนหนึ่ง
ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2553 เป็นต้นมา นักวิจัยเริ่มทำการศึกษาเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของเจลต้านไวรัสเอชไอวีและขยายผลเกี่ยวกับผลการศึกษาเบื้องต้นที่เรียกว่า CAPRISA นี้
การศึกษาที่ยังดำเนินอยู่ในขณะนี้เรียกว่า FACTS001 และจัดทำในแอฟริกาใต้เช่นกัน การศึกษานี้ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและแอฟริกาใต้ ตลอดจนมูลนิธิ Gates Foundation
นาย Warren กล่าวว่า การศึกษา FACTS001 นี้อาจจะสามารถช่วยยืนยันได้ว่าเจลต้านไวรัสเอชไอวี tenofovir ซึ่งใช้ทาก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์จะช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้หรือไม่
เขากล่าวว่าคาดว่าจะมีผลการศึกษาเรื่องนี้ออกมาภายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้และหากผลการศึกษาออกมาในทางบวกและยืนยันผลการศึกษาชิ้นก่อนหน้าทางหน่วยงานก็จะสามารถวางแผนได้ว่าจะนำเจลต้านไวรัสเอชไอวีไปใช้ในงานได้จริงๆ หรือไม่ และในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า คาดว่าจะมีผลการศึกษาเกี่ยวกับยาต้านไวรัสอีกสองชิ้น ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งศึกษาความมีประสิทธิภาพของวงแหวนช่องคลอดที่บรรจุยาต้านไวรัส
นอกจากนี้ ในแอฟริกาใต้ กำลังจะมีการทดลองวัคซีนเอดส์ในปีนี้ โดยการทดลองนี้เป็นการทดลองครั้งที่สองต่อการทดลองวัคซีนเอดส์ในประเทศไทยเมื่อปีพุทธศักราช 2552 ที่ผลการทดลองชี้ว่ามีความเป็นไปได้ในการป้องกันเอดส์ด้วยวัคซีน อย่างไรก็ตาม ผลการทดลองวัคซีนในแอฟริกาใต้และการศึกษาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะทราบผล
ในขณะเดียวกัน จะมีการใช้ยาต้านไวรัสกันอย่างกว้างขวางมากขึ้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอดส์แต่นาย Warren ประธานบริหารของ AVAC กล่าวว่าการใช้ยาต้านไวรัสจะยังคงเป็นวิธีบำบัดหลักแก่ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีอยู่
เขากล่าวว่าต้องการเห็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี 15 ล้านคนได้รับการบำบัดโรคภายในปลายปีพุทธศักราช 2558 นี้ ปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีมากกว่า 30 ล้านคน แม้ราคาของยาต้านไวรัสเอดส์กำลังลดลงมาเนื่องจากมีการผลิตยาออกมาเป็นจำนวนมากตามความต้องการ ในหลายประเทศกำลังพัฒนายังขาดแคลนยาต้านไวรัส
นาย Warren แห่ง AVAC กล่าวว่าเขาไม่คิดว่าโรคเอดส์จะหมดไปจากโลกภายใน 10 ปี หนึ่งในบรรดาอุปสรรคหลายอย่างคือความรังเกียจจากสังคมที่ยังมีอยู่ เขากล่าวว่าหากยังไม่สามารถแก้ปัญหาทางทัศนคตินี้ได้ วัคซีนหรือยาต้านไวรัสเอดส์ก็ไม่มีประสิทธิผลในระยะยาว เขากล่าวว่าไม่มีวิธีการบำบัดด้วยยาใดๆ ที่จะเยียวยาความคิดและความรู้สึกทางลบของคนเราที่มีต่อผู้ติดเชื้อเอดส์ได้
