ประธานาธิบดีเวียดนาม เหงียน ซวน ฟุก ประกาศลาออกในวันอังคาร ถือเป็นผู้นำระดับสูงสุดของรัฐบาลเวียดนามที่ลงจากตำแหน่งหลังจากเกิดข่าวฉาวอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการคอร์รัปชันในวงการการเมืองที่ประธานาธิบดีผู้นี้รับผิดชอบอยู่
สื่อของทางการเวียดนามรายงานว่า ปธน.ฟุก ประกาศการลาออกระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามที่จัดขึ้นเป็นวาระพิเศษเพื่อพิจารณาการลาออกและเกษียณการทำงานของประธานาธิบดีผู้นี้โดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม ภาษาที่ใช้ในคำประกาศการประชุมนี้บ่งชี้ว่า ปธน.ฟุก ถูกกดดันให้ลงจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้น
แถลงการณ์อย่างเป็นทางการที่ตีพิมพ์ในสื่อของรัฐบาลเวียดนาม ยกย่องการทำงานที่ผ่านมาของปธน.ฟุก โดยเฉพาะการรับมือการระบาดของโควิด-19 ในช่วงสามปีที่ผ่านมา แต่แถลงการณ์ยังระบุถึงความรับผิดชอบของปธน.ฟุก ต่อปัญหาคอรร์รัปชันที่เชื่อมโยงกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา รวมทั้งรองนายกรัฐมนตรีสองคน และรัฐมนตรีคนอื่น ๆ อีกสามคน ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับมาตรการที่รัฐบาลนำมาใช้ในการควบคุมการระบาด
นอกจากตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว เหงียน ซวน ฟุก ยังลาออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการโพลิตบูโร คณะกรรมการบริหารของคณะกรรมาธิการส่วนกลาง และประธานสภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติด้วย
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเวียดนามนั้นถูกมองว่าเป็นตำแหน่งตามพิธีการซึ่งไม่มีอำนาจในทางบริหาร โดยตำแหน่งที่มีอำนาจสูงสุดที่แท้จริง คือ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งปัจจุบันเป็นของ เหงียน ฟู ตรอง ที่อยู่ในตำแหน่งเป็นวาระที่สามแล้ว
เหงียน ซวน ฟุก วัย 68 ปี เริ่มเส้นทางการเมืองในระดับท้องถิ่นเมื่อปี 1979 และเข้ารับตำแหน่งในระดับชาติเมื่อปี 2006 ก่อนได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการโพลิตบูโรในปี 2011 และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเวียดนามระหว่างปี 2006 - 2021 จนกระทั่งได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในปี 2021
ผลงานสำคัญของเขา คือการผลักดันเวียดนามให้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูงในช่วงที่เขาเป็นนายกฯ ก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด และต่อมาเขาถือเป็นผู้นำในการรับมือการระบาดด้วยการประกาศใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดทั่วประเทศ ทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นบวกในปี 2020 ซึ่งเกิดการระบาดในระดับสูงสุดทั่วโลก
- ที่มา: เอพี