ล็อคให้ดี! ยอดขโมยรถยนต์ในอเมริกาพุ่งสูงช่วงโควิด-19 ระบาด

This Thursday, May 21, 2020, photo shows a parked car with a broken driver's side window after a smash-and-grab break-in in Los Angeles.

Your browser doesn’t support HTML5

Business News

ในช่วงที่ผู้คนจำนวนมากต่างอยู่กับบ้านเพื่อชะลอการระบาดของโคโรนาไวรัส ทำให้อัตราการเกิดอาชญากรรมต่าง ๆ ลดลงอย่างชัดเจน แต่รถยนต์ของพวกเขาที่จอดแน่นิ่งอยู่หน้าบ้าน หลังบ้าน หรือข้างถนน กลับตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพมากขึ้นแทน

ตำรวจรัฐนิวยอร์กรายงานตัวเลขการขโมยรถยนต์หรือของมีค่าที่อยู่ในรถเพิ่มขึ้น 63% ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมปีนี้ นครออสติน รัฐเท็กซัส เพิ่มขึ้น 50% ขณะที่นครลอสแอนเจลีสรายงานตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 17% ในช่วงเดียวกัน รวมทั้งอีกหลายเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ

ตำรวจแอลเอระบุว่า สาเหตุที่ทำให้อัตราการขโมยรถยนต์สูงขึ้นในช่วงนี้เพราะมีคนตกงานมากขึ้น มิจฉาชีพมีเวลามากขึ้น และมีรถยนต์จอดอยู่ที่เดิมนานหลายวัน

ตำรวจบอกว่า การขโมยรถหรือขโมยของมีค่าในรถเป็นอาชญากรรมที่ลงมือได้ง่าย โดยอาจใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที และให้ผลตอบแทนดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้าของรถมักลืมล็อครถหรือทิ้งกุญแจรถไว้ในยานพาหนะของพวกเขา

พันตำรวจตรี ริชาร์ด วอร์ลีย์ แห่งสำนักงานตำรวจเมืองบัลติมอร์ แมรีแลนด์ แนะนำว่า นอกจากไม่ควรทิ้งของมีค่าไว้ในรถและล็อครถทุกครั้งแล้ว ยังควรหาที่จอดที่มีแสงไฟ ไม่อยู่ในมุมอับ ไม่ลับตาคน และควรช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตาให้กับเพื่อนบ้านของเราด้วย