Your browser doesn’t support HTML5
สื่อ WSJ และ USAToday รายงานว่า แพทย์ใหญ่รัฐฟลอริดาได้ออกคำสั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้มีการตรวจสอบประวัติของผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในรัฐฟลอริดาอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแฝงตัวเข้ามาเพื่อรับการฉีดวัคซีนโควิด
โดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า ผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดต้องเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรหรือตามฤดูกาลของรัฐฟลอริดา ท่ามกลางความกังวลว่ามีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพื่อขอรับการฉีดวัคซีนโควิดในรัฐนี้
แพทย์ใหญ่สก็อตต์ รีฟกีส์ (Surgeon General Scott Rivkees) กล่าวว่า ชาวฟลอริดาจะต้องได้รับวัคซีนที่รัฐนี้ก่อนกลุ่มอื่น และผู้ฉีดวัคซีนจะต้องแน่ใจว่าคนที่เข้ารับวัคซีนนั้นเป็นประชาชนของรัฐนี้ ด้วยการขอดูเอกสารรับรอง เช่น บัตรประจำตัวประชาชนหรือใบขับขี่ เป็นต้น
เวลานี้มีความกังวลว่า รัฐฟลอริดากำลังตกเป็นเป้าหมายของ "ทัวร์วัคซีน" หรือ vaccine tourism คือการที่ชาวต่างชาติฉกฉวยประโยชน์จากโครงการฉีดวัคซีนโควิดของรัฐฟลอริดาที่ครอบคลุมถึงประชากรอายุเกิน 65 ปี โดยที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในรัฐฟลอริดา
ความกังวลนี้เกิดขึ้นเมื่อมีข่าวว่า สตรีชาวอาร์เจนตินาสองคนได้รับวัคซีนโควิดขณะที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา และมีรายงานจากแคนาดาว่า ลูกค้าของบริษัทเช่าเครื่องบินส่วนตัวแสดงความสนใจที่จะเดินทางมายังรัฐฟลอริดาเพื่อรับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
ด้านผู้ว่าการรัฐฟลอริดา รอน เดซานตีส (Gov. Ron DeSantis) กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ตนคัดค้านการที่ผู้คนจากรัฐอื่นหรือชาวต่างชาติต้องการเดินทางมายังฟลอริดาเพื่อฉีดวัคซีนโควิด แต่สามารถยอมรับได้หากเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในรัฐฟลอริดาแบบชั่วครั้งชั่วคราว เช่น มีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่รัฐนี้
คำสั่งดังกล่าวส่งผลให้เวลานี้ โรงพยาบาลและศูนย์ฉีดวัคซีนต่าง ๆ ทั่วฟลอริดา ต้องขอดูเอกสารรับรองตัวตน วันเกิด หรือรับรองการถือครองที่อยู่อาศัยในรัฐฟลอริดามาแสดงก่อนที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19