Your browser doesn’t support HTML5
Valentines Day in the US Trend
วันแห่งความรักปีนี้ ชาวอเมริกันพร้อมเปย์ให้คนรักและคนรอบตัวช่วงวาเลนไทน์มากถึง 21,800 ล้านดอลลาร์ ตามการสำรวจของสมาคมค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐฯ (National Retail Federation) ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ที่หลายคนต้องพลัดพรากจากครอบครัวและคนที่รักกันสักพักใหญ่ อย่างไรก็ตาม หากเดือนกุมภาพันธ์แล้วยังไม่มีใครให้กุมมือ วาเลนไทน์ปีนี้ยังมีอะไรให้เฉลิมฉลองมากกว่านั้น
โรคระบาดไม่อาจขวางกั้นความรักได้ เพราะการสำรวจจากสมาคมค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐฯ (National Retail Federation) และ Prosper Insights & Analytics พบว่า 52% ของชาวอเมริกันในวัยผู้ใหญ่ พร้อมใจเฉลิมฉลองวันแห่งความรักปีนี้ และพร้อมเปย์ให้คนรักและคนรอบข้างไม่ให้อ้างว้างหัวใจ มากถึง 21,800 ล้านดอลลาร์ หรือราว 654,000 ล้านบาท
แมทธิว เชย์ ประธานสมาคมค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวอเมริกันทุกรูปแบบ รวมถึงกิจกรรมที่เคยทำในวันหยุดหรือวันสำคัญต่างๆ แต่เมื่อถึงวันวาเลนไทน์ ผู้บริโภคอเมริกันพร้อมที่จะเฉลิมฉลองวันแห่งความรักนี้กับเพื่อนฝูงและคนที่รักกันเต็มที่
แม้ว่า 74% ในการสำรวจยอมรับว่า โควิด-19 กระทบกับแผนการฉลองวาเลนไทน์และวันหยุดต่างๆของพวกเขา แต่ 73% ของชาวอเมริกันในการสำรวจ บอกว่า วาเลนไทน์ปีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะเฉลิมฉลองท่ามกลางการระบาดของโควิด-19
โดยกลุ่มที่ยังเดินหน้าฉลองวันแห่งความรัก จะเน้นความคลาสสิกแบบการให้การ์ด ขนมลูกกวาด และดอกไม้ 41% บอกว่าจะฉลองมื้อค่ำสุดพิเศษกันที่บ้าน แต่มีเพียง 24% ที่บอกว่าจะออกไปฉลองนอกบ้าน นับว่าเป็นสัดส่วนต่ำที่สุดนับตั้งแต่ทำการสำรวจมา เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายเพื่อการฉลองวาเลนไทน์ปีนี้ลดลงตามไปด้วยที่เฉลี่ย 164.76 ดอลลาร์ หรือราว 4,900 บาทต่อคนในปีนี้ ลดลงจาก 196.31 ดอลลาร์ หรือราว 5,800 บาท เมื่อปีที่แล้ว
39% ของชาวอเมริกัน เลือกจะซื้อของให้คนที่รักผ่านช่องทางออนไลน์ในวันวาเลนไทน์ 29% ไปซื้อที่ห้างสรรพสินค้า 28% เลือกซื้อที่ร้านขายสินค้าราคาย่อมเยา อีก 17% เลือกจะซื้อหาผ่านร้านค้าในพื้นที่หรือร้านขายของช่วงวาเลนไทน์ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่คนอเมริกันหันมาซื้อของกับธุรกิจรายย่อยในพื้นที่มากขึ้น
แม้ว่าหลายคนอาจมองว่าการเฉลิมฉลองวันแห่งความรัก มักจะเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์แบบโรแมนติกระหว่างคนรัก แต่หากกุมภาพันธ์นี้ยังไม่มีใครให้กุมมือ ยังมีอีกหลายเหตุผลที่ปีนี้เราควรเฉลิมฉลองและส่งความสุขเนื่องในวันวาเลนไทน์กัน
ซอนยา ลิวโบมีร์สกี (Sonja Lyubomirsky) อาจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย University of California Riverside บอกว่า ระหว่าที่การทานมื้อเย็นสองต่อสองหรือการซื้อหาดอกไม้ให้กัน อาจเป็นสิ่งที่ทำได้ยากขึ้นในช่วงนี้ เธอเชื่อว่าการสร้างความสุขให้กับคนอื่นมากขึ้น คือ การฉลองวาเลนไทน์ที่มีความหมายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น วาเลนไทน์ปีนี้จะเป็นปีที่ดีสำหรับคนโสดมากขึ้น แต่มีข้อยกเว้นในกรณีของคนที่อยากมีใครเคียงข้างในวันแห่งความรักนี้
แคเรน โดนัลด์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร อากัปกิริยา และความมั่นใจของเหล่าบุคคลมีชื่อเสียงโด่งดัง หรือเหล่าเซเลบริตี้ บอกว่า วาเลนไทน์ปีนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเฉลิมฉลองกับคนที่รัก และเป็นจังหวะที่ดีที่จะบอกว่าคนๆนั้นพิเศษสำหรับคุณแค่ไหน ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนรักกันเท่านั้น เราสามารถใช้โอกาสนี้ ชื่นชมคุณพ่อคุณแม่ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน และคนอื่นๆที่คุณเห็นว่าสำคัญต่อชีวิตคุณ
นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกที่จะมอบความรักและปรารถนาดีให้มากกว่าดอกไม้หรือช็อคโกแลต อาจจะซื้ออาหารคาวอาหารหวาน หรืออบขนมให้ หรือมอบอุปกรณ์ทำสปาที่บ้านให้ อะไรที่พวกเขาชอบเป็นพิเศษ หรืออาจจะเป็นของเรียบง่ายอย่างการ์ดที่ซื้อจากร้านหรือทำเองจากที่บ้านก็ได้
โดนัลด์สัน บอกว่า การให้ในโอกาสวันแห่งความรัก ช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 นี้ ส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย เพราะเมื่อเราทำสิ่งดีๆให้กับคนอื่น ร่างกายจะกระตุ้นการปล่อยฮอร์โมนออกซิโตซิน (oxytocin) หรือเรียกง่ายๆว่า ฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา และส่งผลดีต่ออารมณ์ของเรา ช่วยลดความเครียดและวิตกกังวลได้กับทั้งผู้ให้และผู้รับ
แต่หากคุณเป็นคนที่สุขได้แม้ไร้คนเคียง ปีนี้เป็นปีที่ดีต่อกายและใจด้วยเช่นกัน ในมุมมองของโดนัลด์สัน ที่ว่า หลายคนมีรายการสิ่งที่อยากทำเมื่อเป็นโสดมากมาย และนี่เป็นเวลาทองที่จะหันมารักตัวเองมากขึ้นในวันวาเลนไทน์ปีนี้ เช่น ไปนวดผ่อนคลายสัก 2 ชั่วโมง หรือแช่ตัวในอ่างน้ำอุ่นตีฟองสบู่นุ่มๆ จุดเทียนผ่อนคลายอารมณ์ นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะตามใจตัวเอง และรักตัวเองมากขึ้น