สหรัฐฯ ฟื้นมาตรการลงโทษภาคการเงินและน้ำมันอิหร่าน

A combination of two pictures shows U.S. President Donald Trump (L) on July 22, 2018, and Iranian President Hassan Rouhani on Feb. 6, 2018.

สหรัฐฯ เริ่มนำมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านกลับมาใช้อีกครั้ง โดยมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมน้ำมันและภาคการเงินของอิหร่าน หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับกรุงเตหะรานเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ร่วมกับรัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ สตีเว่น มนูชิน ร่วมแถลงข่าวในวันจันทร์ โดยระบุว่า รัฐบาลอิหร่านยังมีทางเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการลงโทษ ด้วยการปรับเปลี่ยนท่าทีก้าวร้าว และยอมยกเลิกโครงการนิวเคลียร์อย่างถาวร

In this Oct. 2, 2018, file photo, an exchange shop displays rates for various currencies, in downtown Tehran, Iran.

ภายใต้มาตรการลงโทษที่นำกลับมาใช้ใหม่ สหรัฐฯ จะคว่ำบาตรการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับกรุงเตหะราน

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังอนุญาตให้ 8 ประเทศทำธุรกรรมด้านน้ำมันกับอิหร่านได้ชั่วคราวก่อนที่จะยุติทั้งหมดในอนาคต ซึ่งยังไม่กำหนดว่านานแค่ไหน

8 ประเทศดังกล่าว ได้แก่ ตุรกี จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อิตาลี และกรีซ ซึ่งล้วนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่จากอิหร่าน

ในส่วนของภาคการเงิน รัฐมนตรีมนูชิน ระบุว่า ​สหรัฐฯ คว่ำบาตรธนาคารกลางของอิหร่าน รวมทั้งอุตสาหกรรมขนส่งและต่อเรือของอิหร่าน ครอบคลุมบุคคลและนิติบุคคลต่างๆ มากกว่า 700 แห่ง ถือเป็นมาตรการลงโทษด้านการเงินครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่สหรัฐฯ เคยนำมาใช้กับอิหร่าน

การนำมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจกลับมาใช้กับอิหร่าน เป็นผลของการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ถอนอเมริกาออกจากความตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านและประเทศผู้นำโลกอื่นๆ

ตลอดมา ประธานาธิบดีทรัมป์ วิจารณ์ความตกลงฉบับนี้ซึ่งเกิดขึ้นสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโอบาม่า อย่างรุนแรง โดยระบุว่า อิหร่านได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมายจากข้อตกลงจำกัดการพัฒนานิวเคลียร์ แต่รัฐบาลเตหะรานใช้เงินที่ได้มาไปในทางทหารและสนับสนุนการก่อการร้าย แทนที่จะนำไปช่วยประชาชน

FILE - Group picture taken at the UN building in Vienna after Iran and six major world powers reached a nuclear deal.

ด้านประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซาน รูฮานี กล่าวทางโทรทัศน์ในวันจันทร์ว่า อิหร่านจะไม่ยอมก้มหัวให้กับมาตรการลงโทษของสหรัฐฯ และจะยังขายน้ำมันดิบต่อไป

เมื่อวันเสาร์ ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อยาโตลาห์ อาลี คาเมนี กล่าวประณามสหรัฐฯ ที่นำมาตรการลงโทษกลับมาใช้ โดยบอกว่าสหรัฐฯ กำลังทำลายบทบาทความเป็นผู้นำโลกของสหรัฐฯ เอง และในที่สุดแล้ว อิหร่านจะกลายเป็นผู้ชนะ

FILE - In this picture released by an official website of the office of the Iranian supreme leader, Supreme Leader Ayatollah Ali Khamenei attends a meeting with judiciary officials, in Tehran, Iran, June 27, 2018.