Your browser doesn’t support HTML5
ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี คือโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และ ฮิลลารี คลินตั้น จากพรรคเดโมแครต ขึ้นเวทีโต้อภิปรายหรือดีเบตรอบที่สามและรอบสุดท้ายในคืนวันพุธที่ 19 ตุลาคม ไม่ถึง 3 สัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมาถึง
ผู้สมัครทั้งสองคนถกเถียงใน 6 ประเด็นใหญ่ คือนโยบายคนเข้าเมือง, เศรษฐกิจ, นโยบายต่างประเทศ, ตุลาการศาลสูงสุด, หนี้ภาครัฐ และ ความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยมีผู้ดำเนินรายการคือ คริส วอลเลซ จาก Fox News เป็นผู้ตั้งคำถาม
ประเด็นตุลาการศาลสูงสุด
ฮิลลารี คลินตั้น กล่าวว่าตุลาการศาลสูงสุดจำเป็นต้องยืนหยัดเคียงข้างประชาชนอเมริกัน ในประเด็นสิทธิสตรี
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าจำเป็นต้องรักษาบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญบทที่ 2 และตุลาการศาลสูงสุดคนใหม่ที่ตนจะเสนอชื่อจะต้องไม่สนับสนุนการทำแท้งเสรี
ในเรื่องของกฎหมายควบคุมอาวุธปืน คลินตั้นกล่าวว่าตนสนับสนุนให้มีมาตรการอุดช่องโหว่ทางกฎหมายในการซื้ออาวุธปืน
ประเด็นนโยบายคนเข้าเมือง
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาคลินตั้นว่าต้องการอภัยโทษให้กับคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทรัมป์ยินยันด้วยว่าตนยังยึดมั่นต่อนโยบายสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดน สหรัฐฯ - เม็กซิโก
อดีต รมต.คลินตั้น กล่าวว่าหากเธอได้รับเลือก ในช่วง 100 วันแรกในตำแหน่ง เธอจะประกาศแผนเกี่ยวกับการทำให้คนต่างด้าวสามารถได้รับสิทธิพลเมืองอเมริกันได้
ประเด็นเศรษฐกิจ
ฮิลลารี คลินตั้น กล่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจของตนในการสร้างงาน สนับสนุนพลังงานสะอาด เพิ่มเพดานค่าจ้างขั้นต่ำ เพิ่มความเท่าเทียมทางรายได้ระหว่างชาย - หญิง และลดต้นทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย
ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวโจมตีคลินตั้นว่านโยบายของเธอจะเพิ่มภาษีอัตราสูงในกับคนอเมริกัน และบอกว่าตนมีความสามารถในการเจรจาการค้าและข้อตกลงต่างๆ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เจริญรุ่งเรืองภายใต้การนำของตน
โดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้กล่าวโจมตีข้อตกลงการค้าเสรีแถบอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA ซึ่งลงนามในสมัยประธานาธิบดี บิล คลินตั้น ว่าทำลายเศรษฐกิจอเมริกันและการจ้างงาน
ประเด็นความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าข้อกล่าวหาจากสตรีหลายคนว่าตนทำรุ่มร่ามต่อพวกเธอนั้น เป็นเรื่องเหลวไหลที่ถูกสร้างขึ้นโดยทีมหาเสียงของนางคลินตั้น
ฮิลลารี คลินตั้น ตอบโต้ว่า ทรัมป์ได้กล่าวระหว่างการหาเสียงว่าสตรีเหล่านั้นไม่ดึงดูดเพียงพอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของทรัมป์ว่าไม่เหมาะสมต่อตำแหน่งผู้นำประเทศ
จากนั้นผู้ดำเนินรายการถาม โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงเรื่องที่เขากล่าวหาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีการกำหนดผลล่วงหน้า และถามว่าหากพ่ายแพ้ ทรัมป์จะยอมรับผลการเลือกตั้งหรือไม่? ซึ่งทรัมป์บอกว่าตนไม่พร้อมที่จะตอบคำถามนี้
ทางด้านนางคลินตั้นกล่าวว่า สหรัฐฯ มีประชาธิปไตยมากว่า 200 ปี และมีประวัติศาสตร์เรื่องการเลือกตั้งที่โปร่งใสและยุติธรรม ซึ่งคำพูดของทรัมป์กำลังทำลายความน่าเชื่อถือนี้
ประเด็นนโยบายต่างประเทศ
ฮิลลารี คลินตั้น กล่าวว่าตนยังไม่เห็นประโยชน์ของการส่งทหารอเมริกันเข้าไปในอิรัก อดีต รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้นี้ยังได้กล่าวถึงแผนในการยึดเมืองโมซุลและปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม รวมถึงยุทธศาสตร์หลังจากนั้น
ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่านางคลินตั้นคือต้นเหตุของสงครามในอิรักและซีเรีย และว่าสหรัฐฯ สูญเสียการครอบครองเมืองโมซุลในช่วงที่นางคลินตั้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ
ทรัมป์กล่าวว่าแผนของตนในการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามนั้นเต็มไปด้วยความน่าตื่นตะลึง และว่าทั้งหมดของเรื่องนี้คือความผิดของประธานาธิบดีโอบาม่า
ประเด็นหนี้ภาครัฐ
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าแผนเศรษฐกิจของตนจะช่วยลดหนี้ภาครัฐ และกล่าวโจมตีโครงการปฏิรูประบบประกันสุขภาพของ ปธน.โอบาม่า ว่าเป็นสาเหตุของปัญหาหนี้สะสมของรัฐบาล
ฮิลลารีื คลินตั้น กล่าวว่าข้อเสนอทางเศรษฐกิจของเธอจะไม่ก่อหนี้เพิ่ม และเธอจะเพิ่มอัตราภาษีสำหรับคนร่ำรวย เพื่อจัดหาเงินทุนในการช่วยเหลือคนรายได้น้อยและชนชั้นกลางในอเมริกา