อาจารย์ Jeremy Mayer ผู้สอนวิชารัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย George Mason ใกล้กรุงวอชิงตัน อธิบายความแตกต่างเรื่องท่าทีและแนวนโยบายต่างประเทศ ระหว่างผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีซึ่งเป็นตัวแทนของทั้งสองพรรค
อาจารย์ Jeremy Mayer กล่าวว่า ฮิลลารี คลินตัน เป็นผู้ที่สนับสนุนการทำงานระหว่างประเทศ และเน้นความร่วมมือระหว่างประเทศแบบพหุภาคี ในขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ออกจะเป็นแนวชาตินิยม ที่สนับสนุนการดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียว และอาจนำสหรัฐฯ กลับไปสู่ยุคสมัยของการแยกตัวออกเป็นโดดเดี่ยวเหมือนในอดีตได้
เขากล่าวด้วยว่า ฮิลลารี คลินตัน ต้องการใช้เครื่องมือของอำนาจทุกรูปแบบ ตั้งแต่การทูต การพัฒนา และการทหาร และอาจไม่ลังเลที่จะใช้กำลังทหารหากมีความจำเป็นมากกว่าประธานาธิบดีโอบามา
ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์นั้นไม่สนับสนุแนวคิดเรื่องการช่วยสร้างชาติให้กับประเทศที่อ่อนแอ
ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดอีกเรื่องหนึ่ง คือแนวคิดเรื่ององค์การนาโต้ และความสัมพันธ์กับรัสเซีย
โดยขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการให้ประเทศสมาชิกต่างๆ ของนาโต้เข้ามาแบกรับความรับผิดชอบมากขึ้นในเรื่องการป้องกันตนเอง และเน้นเรื่องบทบาทการต่อต้านการก่อการร้าย แต่นางฮิลลารี คลินตัน สนับสนุนความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศสมาชิกของนาโต้ต่อไป
ในส่วนของประธานาธิบดีปูตินนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการให้สหรัฐฯ ทำงานเข้าขากับรัสเซียมากขึ้น เพื่อร่วมต่อสู้กับกลุ่ม ISIS แต่ ฮิลลารี คลินตัน กล่าวว่าเธอต้องการต้านทานอำนาจของประธานาธิบดีปูติน
เกี่ยวกับจีน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการตอบโต้จีนเรื่องการปฏิบัติด้านการค้า การปั่นค่าเงินหยวน การเจาะล้วงข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ และต้องการเพิ่มกำลังทหารสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้
ส่วนนางฮิลลารี คลินตัน ก็ได้เสนอให้จัดตั้งระบบจรวดขีปนาวุธรายล้อมจีนเช่นกัน แต่เธอไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรการตอบโต้แต่เพียงฝ่ายเดียวในกรณีพิพาทด้านการค้ากับจีน
