การโต้อภิปรายหรือดีเบตรอบแรกของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สองคน คือโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และฮิลลารี คลินตัน ของพรรคเดโมแครต ผ่านพ้นไปแล้วเมื่อคืนวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ
ผู้สมัครทั้งสองคนต่างพูดถึงนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายด้านต่างประเทศของตน ซึ่งมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
ดูเหมือน โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามอย่างยิ่งที่จะพูดถึงความอ่อนแอด้านกายภาพของนางคลินตัน ซึ่งทรัมป์ระบุว่าไม่เหมาะสมต่อการเป็นประธานาธิบดีที่ต้องทำงานหนัก และว่านโยบายด้านการต่างประเทศของนางคลินตันในช่วงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ได้สร้างปัญหามากมายต่ออเมริกา โดยเฉพาะการทำให้เกิดกลุ่มก่อการร้ายไอเอสขึ้น
ทางด้านอดีต รมต.คลินตัน พยายามชี้ให้เห็นว่านโยบายเศรษฐกิจของ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการช่วยเหลือคนรวยมากกว่าชนชั้นกลาง และจี้เรื่องการจ่ายภาษีของทรัมป์ โดยบอกว่าทรัมป์ไม่ต้องการเปิดเผยรายงานการเรียกคืนภาษีของตน เพราะเขาไม่ได้ร่ำรวยอย่างที่พูด หรือเขาอาจซุกซ่อนบางอย่างที่น่าสงสัยเอาไว้
ความเห็นที่แตกต่างด้านการต่างประเทศ
คลินตันได้เน้นย้ำถึงประสบการณ์ด้านการต่างประเทศของเธอ ซึ่งได้เดินทางไปมากกว่า 100 ประเทศ และได้เจรจาข้อตกลงสันติภาพต่างๆ มากมายในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลประธานาธิบดีโอบาม่าสมัยแรก
แต่โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าประสบการณ์ของคลินตัน เป็น "ประสบการณ์แย่ๆ" พร้อมทั้งวิจารณ์ข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ที่สหรัฐฯ และประเทศมหาอำนาจ 5 ประเทศ ทำกับอิหร่านว่าทำให้อิหร่านได้เปรียบและได้ใจ
ในประเด็นด้านการโจมตีในโลกไซเบอร์ส ทั้งสองคนเห็นด้วยว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อเพิ่มศักยภาพของสหรัฐฯ ในการตอบโต้ภัยคุกคามดังกล่าว
ส่วนในเรื่องการสนับสนุนการทำสงครามในอิรักในสมัยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าตนไม่เคยสนับสนุนการทำสงครามในอิรัก แม้ว่าวิดีโอการสัมภาษณ์เขาในเวลานั้นระบุว่าเขาสนับสนุนจริง
ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโอบาม่าดำเนินนโยบายผิดพลาดที่ไม่คงกำลังทหารไว้ในอิรัก ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้กลุ่มรัฐอิสลามขยายอิทธิพลเช่นในปัจจุบัน
แต่นางคลินตันตอบกลับว่า รัฐบาลอิรักในขณะนั้นเองที่ไม่ต้องการทำข้อตกลงปกป้องชีวิตทหารอเมริกันในอิรัก ทำให้ในที่สุดสหรัฐฯ ต้องตัดสินใจถอนทหารออกจากอิรักทั้งหมด
สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามดูครั้งต่อๆ ไป การโต้อภิปรายจะมีอีกสองครั้งในเดือนตุลาคม ในวันที่ 9 และ 19 ระหว่างทรัมป์และคลินตั้น ส่วนการโต้อภิปรายระหว่างตัวแทนของสองพรรคในตำแหน่งรองประธานาธิบดี จะมีขึ้นเพียงครั้งเดียวในวันที่ 4 ตุลาคม