การเรียนออนไลน์ในสหรัฐฯ ได้ผล หรือล้มเหลว?

Coding booms among Chinese children

การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้หลายโรงเรียนในสหรัฐฯ ยุติการเรียนการสอนในห้องเรียน และหันไปใช้การเรียนผ่านระบบออนไลน์ เป็นภารกิจใหญ่ ที่มีผลกระทบต่อนักเรียนอเมริกันมากกว่า 50 ล้านคน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้น ม.6

สื่ออเมริกัน The Wall Street Journal รายงานว่า การเรียนการสอนออนไลน์ของอเมริกาน่าจะได้เกรด F หรือ สอบตก เนื่องจากปัญหาและอุปสรรคหลายอย่าง ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งนักเรียน ครู และผู้ปกครอง

ปัญหาแรก พบว่า หลายโรงเรียนไม่มีกลไกหรือระบบที่จะยืนยันได้ว่านักเรียนเข้าเรียนจริงหรือไม่ มีกรณีที่นักเรียนล็อคอินเข้ามาในห้องเรียนออนไลน์ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ติดตามที่ครูสอนอยู่จริง บางโรงเรียนได้ขอให้ผู้ปกครองช่วยเช็ค ในขณะที่บางโรงเรียนไม่เคยเช็คเลย มีการประเมินว่า มีนักเรียนที่ไม่มาเข้าเรียนถึงเกือบ 1 ใน 3 ในแต่ละวัน และส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนกลุ่มด้อยโอกาส ยากจน มีปัญหาทางการเรียน ซึ่งต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ

ปัญหาที่สอง คือ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา นักเรียนหลายคนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เรียน เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ บางคนไม่มีอินเตอร์เน็ตที่บ้าน องค์กรไม่หวังผลกำไร Education Super Highway ประเมินว่า มีนักเรียนประมาณ 9.7 ล้านคนที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ในอเมริกา

รัฐลุยเซียนา เคนตักกี มิสซิสซิปปี เวสต์ เวอร์จิเนีย และกรุงวอชิงตัน นครหลวงของสหรัฐฯ มีสัดส่วนนักเรียนที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้มากที่สุดของประเทศ คิดเป็นประมาณ 26-28% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศ ในขณะที่รัฐนิวแฮมเชียร์ นอร์ทดาโกตา และยูทาห์ มีสัดส่วนน้อยที่สุด คือประมาณ 10-12%

นอกจากนี้ ครูอาจารย์ยังไม่มีประสบการณ์ หรือขาดความชำนาญในการสอนแบบออนไลน์ บางคนบอกว่าการสอนออนไลน์ เทียบไม่ได้กับการสอนตัวต่อตัว เพราะพวกเขาไม่สามารถมองเห็นนักเรียน อ่านภาษากาย หรือสีหน้าท่าทางของพวกเขาได้ ทำให้เกิดความไม่แน่ใจว่านักเรียนจะเข้าใจเนื้อหาอย่างถ่องแท้หรือไม่

ผู้ปกครองก็ไม่สามารถดูแลลูกหลานให้เข้าเรียนได้ตลอด โดยเฉพาะพ่อแม่ที่มีลูกหลายคนหลายวัย หรือพ่อแม่ที่ยังต้องออกไปทำงาน และไม่มีเงินหรือมีทรัพยากรพอที่จะช่วยดูแลลูกได้

ผลที่ตามมา คือบางโรงเรียนไม่ต้องการจะให้เกรดนักเรียนในภาคเรียนที่ผ่านมา เพราะมองว่า การให้เกรดอาจจะไม่เป็นธรรม เพราะนักเรียนแต่ละคนมีทรัพยากรในการเรียนออนไลน์ไม่เหมือนกัน หลายโรงเรียนมีนโยบายไม่ให้เกรด F หรือไม่ให้นักเรียนสอบตก ซึ่งก็ทำให้มีความกังวลว่า ยิ่งจะไปทำให้นักเรียนหลายคนไม่สนใจเรียน หรือไม่ทำงานส่ง ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลว่านักเรียนหลายคนจะโกง ไม่ทำการบ้านเอง เป็นต้น

ที่สำคัญยังพบว่าการเรียนออนไลน์ทำให้เกิดภาวะการเรียนรู้ถดถอยอีกด้วย โดยการวิจัยเบื้องต้นพบว่านักเรียนอเมริกัน มีทักษะการอ่านเพิ่มขึ้นเพียง 70% ของที่ควรจะเป็น ส่วนทักษะคณิตศาสตร์ มีการเรียนรู้เพิ่มขึ้นไม่ถึงครึ่งของเป้าหมายที่ตั้งไว้ และภาวะการเรียนรู้ของกลุ่มนักเรียนด้อยโอกาส น่าจะยิ่งต่ำกว่านั้น