ชาวอเมริกันแห่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ากันหนาตามากกว่าที่ผ่านมา ใน 27 รัฐทั่วประเทศ ตามการประเมินของหน่วยงาน University of Florida Elections Project
รัฐที่มีชาวอเมริกันออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเป็นจำนวนมากกว่าเลือกตั้งกลางเทอมครั้งก่อน เมื่อปี ค.ศ. 2014 ได้แก่ แอริโซนา เดลาแวร์ ฟลอริดา จอร์เจีย ไอดาโฮ อิลลินอยส์ อินเดียนา แคนซัส ลุยเซียนา เมน แมรีแลนด์ มินนิโซตา มิสซูรี มิสซิสซิปปี มอนทานา นอร์ท แคโรไลนา นอร์ท ดาโกตา นิว เม็กซิโก เนวาดา โอกลาโฮมา เซาท์ แคโรไลนา เทนเนสซี เวอร์จิเนีย วิสคอนซิน เวสต์ เวอร์จิเนีย และกรุงวอชิงตัน ที่น่าสนใจคือรัฐเท็กซัส มีจำนวนผู้ไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้ามากกว่าการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อ 4 ปีก่อน
ทางนาย Michael McDonald จาก University of Florida เปิดเผยกับ CBS ว่าผลการเลือกตั้งล่วงหน้าจะสะท้อนถึงยอดผู้ที่จะออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันอังคารหน้าได้ราวร้อยละ 45-50 ทีเดียว
CBS ให้น้ำหนักกับรัฐ แอริโซนา ฟลอริดา อินเดียนา มินนิโซตา มิสซูรี มอนทานา นอร์ท ดาโกตา เนวาดา เทนเนสซี เท็กซัส วิสคอนซิน และ เวสต์ เวอร์จิเนีย ที่เป็นรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการสมดุลอำนาจของสภาสูง
สำหรับบรรยากศช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เดินทางไปหาเสียงช่วยผู้สมัครจากรีพับลิกันใน 8 รัฐสำคัญ ได้แก่ ฟลอริดา มิสซูรี เวสต์ เวอร์จิเนีย อินเดียนา มอนทานา จอร์เจีย เทนเนสซี และโอไฮโอ เช่นเดียวกับอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และอดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน เดินทางไปช่วยหาเสียงให้ฝั่งเดโมแครตในรัฐดังกล่าวด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ามีหลายรัฐที่จำกัดสิทธิ์เลือกตั้งโดยเฉพาะกับชนกลุ่มน้อย โดยในรัฐจอร์เจีย ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งราว 53,000 คนถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งกว่าร้อยละ 70 เป็นคนผิวสี ส่วนรัฐนอร์ท ดาโกต้า มีกฏหมายให้ยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งกระทบต่อฐานเสียงในกลุ่มอินเดียนอเมริกันอย่างมาก