Your browser doesn’t support HTML5
รอง ปธน.สหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ เดินทางถึงเกาหลีใต้ในวันพฤหัสบดี เพื่อเข้าร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพย็องชาง
รอง ปธน.เพนซ์ ได้จัดประชุมแถลงข่าวร่วมกับ ปธน. เกาหลีใต้ มูน แจ-อิน โดยบอกว่าสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ จะยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่ในการรับมือเกาหลีเหนือ และจะใช้แรงกดดันขั้นสูงสุดต่อรัฐบาลกรุงเปียงยางให้ยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และทดสอบขีปนาวุธ
ก่อนหน้านี้ระหว่างการเยือนญี่ปุ่น รอง ปธน.เพนซ์ ระบุว่า สหรัฐฯ จะใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างสันติในการรับมือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ แต่ก็พร้อมที่จะใช้มาตรการทางทหารหากจำเป็น และยังบอกด้วยว่า สหรัฐฯ กำลังวางแผนจะใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจที่รุนแรงและเข้มงวดที่สุดกับเกาหลีเหนือด้วย
แต่ที่เกาหลีใต้ บรรดาเจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์ต่างชี้ว่า น้ำเสียงของ รอง ปธน. สหรัฐฯ ที่ว่าจะใช้มาตรการทางทหารต่อเกาหลีเหนือนั้น ดูจะลดความหนักแน่นลง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบมหาศาลต่อประชาชนหลายล้านคนทั้งในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น หากมีการโจมตีเกิดขึ้นจริง
โดย รอง ปธน.เพนซ์ กล่าวที่เกาหลีใต้ว่า หากเกาหลีเหนือต้องการให้สหรัฐฯ เข้าร่วมในการเจรจาเพื่อยุติมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ และเปลี่ยนไปให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนือแทนนั้น เกาหลีเหนือจะต้องแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการยุติการยั่วยุหรือคุกคามต่างๆ เสียก่อน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นักวิเคราะห์ชี้ว่า ท่าทีที่แข็งกร้าวของสหรัฐฯ ที่มีต่อเกาหลีเหนือนั้น อาจกำลังเพิ่มความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรสำคัญ คือเกาหลีใต้ เนื่องจากรัฐบาลชุดปัจจุบันของเกาหลีใต้นั้น มีนโยบายต้องการกระชับสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านทางเหนือมากกว่า
คุณ เดวิด สตร๊วบ (David Straub) แห่งสถาบัน Sejong ในเกาหลีใต้ กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่ากำลังเกิดความเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงสงวนท่าทีในเรื่องนี้
ที่ผ่านมา ปธน.เกาหลีใต้ มูน แจ-อิน สนับสนุนให้ใช้แนวทางที่โอนอ่อนกับเกาหลีเหนือ เช่น การชะลอการซ้อมรบกับกองทัพอเมริกัน และการเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือ แลกกับการที่กรุงเปียงยางระงับการทดสอบจรวดขีปนาวุธชั่วคราว และหันมาเจรจาสองฝ่ายเพื่อยับยั้งการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
แต่ท่าที่ของ รอง ปธน.สหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งกร้าวนั้น แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ อาจยังไม่ยอมรับแนวทางที่ว่านี้ และยังไม่เชื่อว่าจะสามารถเกิดความสงบบนคาบสมุทรเกาหลีได้จริง ภายหลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้จบลง