รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ เดินทางเยือนเอเชียตะวันออกในสัปดาห์นี้ โดยมีเป้าหมายต่อต้านการคุกคามของเกาหลีเหนือ ในช่วงที่กำลังจะมีพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เกาหลีใต้ในช่วงปลายสัปดาห์
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า การเดินทางเยือนเอเชียของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ ในสัปดาห์นี้ ไม่ได้มีวาระสำคัญเพียงแค่การเป็นตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เมืองพย็องชาง ของเกาหลีใต้ เท่านั้น แต่ยังมีประเด็นเรื่องการต่อต้านภัยคุกคามจากโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือพ่วงไปด้วย
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวผู้นี้กล่าวว่า รอง ปธน.เพนซ์ เป็นกังวลอย่างยิ่งว่า ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน อาจใช้ช่วงเวลาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ เพื่อประกาศความตั้งใจบางอย่างของกรุงเปียงยาง เหมือนที่เคยทำมาแล้วในอดีต
ดังนั้น รอง ปธน.สหรัฐฯ ต้องการให้แน่ใจว่า ช่วงเวลาสองสัปดาห์จากนี้จะไม่ใช่เวลาที่เกาหลีเหนือสามารถโฆษณาชวนเชื่อ หรือกระทำการใดๆ ที่เป็นการคุกคามความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้
ตามกำหนดการ รอง ปธน.เพนซ์ จะรับฟังบรรยายสรุปเรื่องระบบป้องกันขีปนาวุธนำวิถี ที่ฐานทัพอากาศของสหรัฐฯ ในรัฐอลาสก้า ในวันจันทร์ ก่อนจะเดินทางด้วยเครื่องบิน Air Force Two ไปยังญี่ปุ่น
และในวันพุธ รอง ปธน.สหรัฐฯ จะพบหารือกับนายกฯ ญี่ปุ่น ชินโซ่ อาเบะ ที่กรุงโตเกียว และรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังกรุงโซล เกาหลีใต้ ในวันพฤหัสบดี และพบหารือและทานอาหารเย็นกับ ปธน.เกาหลีใต้ มูน แจ-อิน โดยคาดว่าจะมีการนำประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือขึ้นหารือกับผู้นำเกาหลีใต้และผู้นำญี่ปุ่นด้วย
จากนั้น รอง ปธน.เพนซ์ จะเข้าร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เมืองพย็องชาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและกองทัพสหรัฐฯ หลายคน
โดยในพิธีเปิดครั้งนี้ นักกีฬาของเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ จะเดินพาเหรดร่วมกันโดยใช้ธงชาติเดียวกัน เรียกว่า “ธงรวมประเทศ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสองเกาหลี
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังส่งนักกีฬาฮ็อกกี้หญิงลงแข่งในทีมเดียวกันในโอลิมปิกครั้งนี้ด้วย
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายกฯ ชินโซ่ อาเบะ และ ปธน. มูน แจ-อิน เกี่ยวกับสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ จากนั้นได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือ 8 คนที่ทำเนียบขาว
ที่ผ่านมา รัฐบาล ปธน.ทรัมป์ ได้เน้นย้ำว่าจะสกัดกั้นโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และจรวดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ โดยระบุว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของสหรัฐฯ ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เมื่อปีที่แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ ต่างแลกเปลี่ยนคำขู่และใช้โวหารโจมตีกันและกัน รวมทั้งการที่ต่างอ้างว่าตนมีปุ่มนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สามารถโจมตีอีกฝั่งหนึ่งได้ทันที
(ผู้สื่อข่าว Steve Herman รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)
