ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เควิน แมคคาร์ธีย์ เรียกร้องให้สมาชิกสภาคองเกรสเร่งตรวจสอบและอนุมัติกฎหมายปรับขึ้นเพดานหนี้ของรัฐบาลที่ทั้งสองเพิ่งตกลงกันได้โดยด่วน
ผู้นำสหรัฐฯ และผู้นำสภาล่างบรรลุข้อตกลงเจรจาเงื่อนไขการปรับขึ้นเพดานหนี้ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2025 ภายใต้เงื่อนไขว่ารัฐบาลจะรักษาระดับค่าใช้จ่ายภาครัฐให้คงที่ในปีนี้ และปรับขึ้นเพียง 1% ในปีหน้า
SEE ALSO: ดีลไหนได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ ในมหากาพย์เพดานหนี้สหรัฐฯ?
นอกจากนั้น ทั้งสองยังตกลงที่จะลดการปันงบสนับสนุนการจ้างงานเจ้าหน้าที่ Internal Revenue Service (IRS) ซึ่งเป็นเหมือนกรมสรรพากรของไทย และยกเลิกงบช่วยเหลือภาวะระบาดใหญ่ของโควิด-19 มูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งการดำเนินมาตรการที่ทำให้แน่ใจว่า ชาวอเมริกันที่มีอายุ 49 ถึง 54 ปีมีคุณสมบัติครบตามเงื่อนไขด้านการทำงานก่อนจะได้รับความช่วยเหลือด้านอาหารจากรัฐบาล
ภายหลังการบรรลุการเจรจาปรับขึ้นเพดานหนี้ ปธน.ไบเดน กล่าวที่ทำเนียบขาวว่า “ข้อตกลงนี้จะป้องกันวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดไม่ให้เกิดขึ้น นั่นก็คือ การผิดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาติเรา” และว่า ความสำเร็จนี้ “ช่วยทำให้ภัยจากการผิดชำระหนี้ที่อาจสร้างความพินาศให้หมดสิ้นไปแล้ว”
ขณะเดียวกัน ส.ส.แมคคาร์ธีย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ที่อาคารรัฐสภาว่า “ในที่สุด ประชาชนก็สามารถเฝ้ามองเราก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้”
แต่ขณะที่ผู้นำรัฐบาลและผู้นำสภาล่างสหรัฐฯ ต่างสนับสนุนข้อตกลงครั้งนี้อย่างเต็มที่ สมาชิกพรรคเดโมแครตหัวก้าวหน้าและสมาชิกพรรครีพับลิกันหัวอนุรักษ์นิยมต่างก็ออกมาคัดค้านเรื่องนี้กันแล้ว
พรามิลา จายาปาล ส.ส.พรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มสมาชิกสภาล่าวหัวก้าวหน้าจำนวน 102 คน กล่าวระหว่างร่วมรายการ “State of the Union” ทางสถานีข่าว CNN ว่า ปธน.ไบเดน และฮาคีม เจฟฟรียส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้เเทนฯ ควรจะกังวลเกี่ยวกับสมาชิกหัวก้าวหน้าว่า จะสนับสนุนแผนการปรับขึ้นเพดานหนี้นี้หรือไม่ และเธอยังวิพากษ์วิจารณ์เงื่อนไขข้อตกลงนี้ในเรื่องการคุมเข้มเงื่อนไขของโครงการสวัสดิการ food stamp ทั้งยังเผยด้วยว่า ตัวเธอไม่แน่ใจว่า จะลงคะแนนเสียงสนับสนุนกฎหมายปรับขั้นเพดานหนี้หรือไม่
ส่วน บ็อบ กู๊ด ส.ส.พรรครีพับลิกัน ทวีตข้อความออกมาว่า “ไม่มีใครที่อ้างว่าตนเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่จะหาเหตุผลมาลงคะแนน YES [ให้กับร่างกฎหมายปรับขึ้นเพดานหนี้]” ขณะที่ ส.ส.ราล์ฟ นอร์แมน จากพรรครีพับลิกันเช่นกัน ทวีตข้อความที่ระบุว่า “ข้อตกลงนี้บ้าบอสิ้นดี” และกล่าวว่า โอกาสที่จะมีการปรับขึ้นหนี้อีก 4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 2 ปีข้างหน้า “โดยไม่มีการตัดลงใด ๆ เลยไม่ใช่สิ่งที่พวกเราตกลงใจ เราจะไม่ลงคะแนนเสียงเพื่อทำให้ประเทศล้มละลาย ชาวอเมริกันควรได้สิ่งที่ดีกว่านี้”
ก่อนหน้านี้ ปธน.ไบเดน ระบุในแถลงการณ์ว่า “ข้อตกลงนี้แสดงถึงการประนีประนอม นั่นหมายถึงไม่ใช่ทุกคนจะได้สิ่งที่ต้องการ นั่นคือความรับผิดชอบในการบริหารประเทศ” และเรียกข้อตกลงนี้ว่า “เป็นก้าวสำคัญในการลดการใช้จ่ายภาครัฐระหว่างที่ปกป้องโครงการสำคัญสำหรับชนชั้นแรงงานอเมริกันและเศรษฐกิจที่เติบโตสำหรับทุกคน”
ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Fox News Sunday เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส.ส.แมคคาร์ธีย์ กล่าวว่า จากมุมมองของพรรครีพับลิกันนั้น “[ข้อตกลง]นี้มีเรื่องดี ๆ อยู่มากมาย ... มันไม่ได้ตอบทุกโจทย์ของทุกคน แต่มันก็เป็นก้าว ๆ หนึ่งที่จะนำพาไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์