ข่าวกรองสหรัฐฯ จับตาท่าทีจีนเตรียมพร้อมกับสงครามทุกมิติ

  • VOA

National People's Congress (NPC) closes in Beijing

มุมมองเชิงลบของจีนเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้ทำให้รัฐบาลปักกิ่งต้องเตรียมพร้อมสำหรับสงครามที่พวกเขาไม่อยากจะมีส่วนร่วม ตามการประเมินของเจ้าหน้าที่ระดับสูงข่าวกรองของสหรัฐฯ

ดั๊ก เวด หัวหน้าฝ่ายกิจการจีนของสำนักข่าวกรองทางการทหารสหรัฐฯ หรือ DIA ได้เตือนว่า สหรัฐฯ และจีน มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาการเผชิญหน้าที่มากขึ้นเรื่อย ๆ “จีนจะแสดงให้เห็นในทุกแง่มุม – ทุกรูปแบบการสู้รบในทุกมิติ ทั้งด้านการทูต ด้านข้อมูลข่าวสาร ด้านเศรษฐกิจ และด้านการค้า” และว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน มองสหรัฐฯ ว่า “เป็นฝ่ายกีดกันจีนให้ไปถึงตำแหน่งอันชอบธรรมในฐานะผู้นำโลก” และพฤติกรรมของจีนในทะเลจีนใต้และต่อไต้หวันจะเป็นสิ่งที่จะอธิบายเรื่องนี้

เวด เสริมว่า “จีนไม่ได้ต้องการจะเริ่มต้นสงครามกับเราในประเด็นไต้หวัน” และว่า “พวกเขาจะทำหากจำเป็น ... พวกเขายังไม่ได้ตัดสินใจ”

ความมุ่งมั่นของจีน

ทัศนะของหัวหน้าฝ่ายกิจการจีนของสำนักข่าวกรองทางการทหารสหรัฐฯ หรือ DIA มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการของสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ CIA ให้ข้อมูลกับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ให้ระวังความทะเยอทะยานของจีนในเวทีโลก เมื่อเกี่ยวข้องกับประเด็นไต้หวัน เช่นเดียวกับทางผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองทางการทหารสหรัฐฯ หรือ DIA ได้กล่าวอีกเสียงว่า ปธน.สี และผู้นำระดับสูงของจีนรายอื่น ๆ พร้อมที่จะเสี่ยงเผชิญกับความขัดแย้งแม้ว่ารัฐบาลปักกิ่ง “จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการป้องกันความตึงเครียดไม่ให้เพิ่มขึ้นและรักษาเสถียรภาพในความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ” ก็ตาม โดยกล่าวว่า “พรรคคอมมิวนิสต์จีนยอมรับมากขึ้นแล้วว่าจะบรรลุเป้าหมายได้ด้วยการทำลายอำนาจและอิทธิพลของสหรัฐฯ”

จับตาจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งไต้หวัน

หัวหน้าฝ่ายกิจการจีนของสำนักข่าวกรองทางการทหารสหรัฐฯ กล่าวว่าสัญญาณแรก ๆ ของการเผชิญหน้าทางการทหารกับไต้หวัน “อาจเริ่มต้นจากระดับความขัดแย้งที่ต่ำกว่าเกณฑ์ไปมาก” โดยระบุว่า “มันอาจรวมถึงกิจกรรมที่หลากหลาย เริ่มจากบางสิ่งอย่างสงครามไซเบอร์ การปิดกั้นหรือล่วงล้ำเขตป้องกันตนเองทางอากาศและดินแดนของไต้หวัน การบุกรุกโดยกองทัพเรือ” และว่ากองทัพจีนอาจพยายามกีดกันสหรัฐฯ ในการส่งความช่วยเหลือจำเป็นให้กับกองทัพไต้หวันเหมือนที่ทำกับยูเครน

การแข่งขันด้านอวกาศรอบใหม่

เวด กล่าวถึงโครงการด้านอวกาศของจีนด้วยว่า “เป็นอันดับสองรองจากสหรัฐฯ” และ “จีนมองเรื่องอวกาศเป็นจุดที่อ่อนแอของสหรัฐฯ” โดยหัวหน้าฝ่ายกิจการจีนของสำนักข่าวกรองทางการทหารสหรัฐฯ ระบุว่า “มีศักยภาพด้านอวกาศและระบบต่อต้านทางอวกาศของจีนที่สร้างความกังวลให้กับเราอย่างมาก .. ไม่ว่าจะพูดถึงระบบต่อต้านภาคพื้นดิน สิ่งของในวงโคจร และสงครามอิเล็กทรอนิกส์ .. พวกเขายอมรับความจริงที่ว่าเราใช้ศักยภาพด้านอวกาศอย่างมีประสิทธิภาพในปฏิบัติการทางทหารและศักยภาพด้านการทหาร และจีนต้องการเข้ามาครอบครองอาณาเขตให้ได้เหมือนที่กำลังทำกับพื้นที่การสู้รบอื่น ๆ ”

ขณะที่พอล ไฟรสท์เลอร์ หัวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ DIA เสริมด้วยว่าจีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโลกด้านการพัฒนาอาวุธความเร็วเหนือเสียงแล้ว ในระหว่างที่สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการทดสอบหรือพัฒนาโครงการดังกล่าวอยู่

  • ที่มา: วีโอเอ