หลายรัฐในอเมริกาเตรียมช่วยรับคนจากอัฟกานิสถานสู่ "บ้านใหม่" ในสหรัฐฯ

FILE - Maryland Gov. Larry Hogan speaks to lawmakers in Annapolis, Md., Feb. 5, 2020. He's one of several U.S. governors who have pledged to help resettle Afghan refugees in their states.

ผู้ว่าการรัฐหลายเเห่งในอเมริกากล่าวว่าพวกตนพร้อมที่จะช่วยรับผู้อพยพชาวอัฟกันมายังสหรัฐฯ​หลังจากที่กลุ่มตาลิบันสามารถโค่นอำนาจรัฐบาลเดิมของอัฟกานิสถาน

ภายในไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ผู้ว่าการรัฐอย่างน้อย 10 แห่งเเสดงท่าทีเปิดรับผู้อพยพ ขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯคาดว่าจะมีชาวอัฟกันที่เคยช่วยงานอเมริกาในอัฟกานิสถานมากถึง 22,000 ที่อาจต้องการย้ายมาออกจากอัฟกานิสถาน

จนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯจัดสถานที่ให้ชาวอัฟกันกลุ่มเเรกที่เดินทางออกมาจากประเทศของตน มายังอเมริกาเเล้วราว 2,000 คน โดยพวกเขาอยู่ที่ฐานทัพ Fort Lee ในรัฐเวอร์จิเนีย

ในอีกไม่กี่สัปดาห์จากนี้ น่าจะมีผู้อพยพจากอัฟกานิสถานทยอยเข้ามาสหรัฐฯ หลายพันคน คาดว่าพวกเขาจะเข้ามาที่ฐานทัพอากาศในรัฐเท็กซัสและวิสคอนซิน

This screengrab taken from video from Pajhwok Afghan News shows Afghan people protesting over the reported removal of Afghan flags replaced with Taliban flags after the Taliban's military takeover of Afghanistan, in Jalalabad on August 18, 2021. …

สำหรับรัฐที่แสดงการเปิดรับเป็น 'บ้านใหม่' ของผู้อพยพอัฟกันในขณะนี้ได้เเก่ เเคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย เเมริเเลนด์ เเมสซาชูเสตส์ เซาธ์เเคโรไลนา ยูทาห์ วอร์มอนต์ เวอร์จิเนีย วิสคอนซิน รวมถึง เกาะกวมซึ่งเป็นเขตการปกครองของสหรัฐฯในมหาสมุทรเเปซิฟิก

องค์การด้านมนุษยธรรมหลายเเห่งประเมินว่าน่าจะมีชาวอัฟกันที่เคยช่วยงานสหรัฐฯ รวมถึงสมาชิกครอบครัวรวมกันเเล้วเกือบ 80,000 คน ที่ได้ยื่นขอวีซ่าแบบพิเศษเพื่อการย้ายมาอยู่อเมริกา

คนเหล่านี้เคยช่วยอเมริกาในหหลายรูปแบบ เช่น งานล่าม มัคคุเทศก์ และเป็นเเหล่งข่าวให้เจ้าหน้าที่อเมริกัน

องค์การ International Rescue Committee ประเมินว่าชาวอัฟกันกว่า 300,000 คนเคยช่วยสหรัฐฯ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาในอัฟกานิสถาน แต่มีจำนวนน้อยกว่านั้นมากที่ มีคุณสมบัติที่จะยื่นของการคุ้มครองจากสหรัฐฯ

เเม้กลุ่มตาลิบันจะให้สัญญาว่าจะมีการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติ แต่รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ว่าผู้ประท้วงต่อต้านกลุ่มดังกล่าวอย่างน้อยสามคนถูกสังหารไปเเล้วที่เมืองจาลาลาบัด

(ที่มา: รอยเตอร์และวีโอเอ)