Your browser doesn’t support HTML5
รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการจำกัดการส่งออกชุดใหม่เพื่อเข้าควบคุมความเสี่ยงของการรั่วไหลของเทคโนโลยีอเมริกันให้กับจีน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ส่งจดหมายให้แก่ผู้ผลิตและคู่ค้าสัญชาติอเมริกันของ Semiconductor Manufacturing International Corp หรือ SMIC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดของจีน ด้วยเหตุผลว่า อุปกรณ์ที่ธุรกิจอเมริกันขายให้กับผู้ผลิตชิปแห่งนี้อาจนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการทหารได้ ซึ่งเป็น “ความเสี่ยงที่ไม่อาจรับได้”
ภายใต้คำสั่งล่าสุดนี้ บริษัทอเมริกันที่ต้องการส่งสินค้าให้กับ SMIC จะต้องยื่นเรื่องขอใบอนุญาตก่อนจะดำเนินธุรกิจได้
เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่งบังคับใช้คำสั่งห้ามผู้ผลิต “ชิป” ไม่ว่าจากประเทศใดที่พึ่งพาเทคโนโลยีของสหรัฐฯ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนให้กับบริษัท หัวเหว่ย ของจีน ที่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนดังกล่าวในการผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเครือข่าย 5G
สำนักข่าว รอยเตอร์ส ระบุว่า SMIC ยืนยันว่า ทางบริษัทยังไม่ได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกรุงวอชิงตัน เกี่ยวกับคำสั่งการจำกัดการส่งออก และว่า บริษัทไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับกองทัพจีนด้วย
รายงานข่าวเมื่อเดือนที่แล้ว ระบุว่า รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพิจารณาเพิ่มชื่อ SMIC เข้าไปในบัญชีดำ ขณะที่ทางบริษัทปฏิเสธในแถลงการณ์ว่า มีการใช้เทคโนโลยีของตนเพื่อประโยชน์ทางการทหาร พร้อมประกาศที่จะทำปฏิบัติตามกฎของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ห้ามขายชิปของตนให้กับ หัวเหว่ย เพื่อที่จะไม่ถูกมาตรการลงโทษใดๆ
แม้จีนพยายามที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมไฮเทคมาโดยตลอด ผู้ผลิตในประเทศนี้ยังไม่สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าของการผลิตไมโครชิประดับโลกได้ โดยกระบวนการผลิตที่ดีที่สุดของ SMIC ยังผลิตได้เพียงไมโครชิปแบบ 14 นาโนมิเตอร์ ซึ่งตามหลังเทคโนโลยีของซัมซุงและบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company อยู่หลายรุ่น ขณะที่บริษัทยังต้องพึ่งเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ จากสหรัฐฯ อยู่ตลอดเวลาด้วย