กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยรายชื่อขององค์กรธุรกิจที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งชี้ว่า “ไม่น่าไว้วางใจ” ซึ่งถูกมองว่า เป็นมาตรการที่ออกมาเพื่อตอบโต้นโยบายของรัฐบาลกรุงวอชิงตันที่ดำเนินมาก่อนหน้านี้
รายชื่อขององค์กรธุรกิจที่ไม่น่าไว้วางใจของจีนที่เพิ่งได้รับการเปิดเผยออกมานี้ เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายจับตาเฝ้ารอมาระยะหนึ่งแล้ว และเอกสารที่รายงานข่าวระบุว่า “มีการใช้คำอธิบายแบบคลุมเครือ” นี้ มีการพูดถึงสิ่งที่องค์กรธุรกิจต่างประเทศจะต้องเผชิญ หากถูกพิจารณาว่า เป็นอันตรายต่อ “อธิปไตย ความมั่นคง และการพัฒนาผลประโยชน์ของจีน” ด้วย
บริษัทที่อยู่ในรายชื่อนี้มีโอกาสที่จะถูกสั่งห้ามทำธุรกิจการค้าและลงทุนในประเทศจีน และอาจต้องจ่ายค่าปรับจำนวนมหาศาล ขณะที่พนักงานขององค์กรอาจถูกคำสั่งจำกัดการเดินทางเข้าประเทศด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมของปีที่แล้วว่าจะทำรายชื่อดังกล่าวออกมา หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเพิ่มชื่อบริษัท หัวเหว่ย เข้าไปในบัญชีดำของสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า รายชื่อบริษัทที่ไม่น่าไว้วางใจของจีนที่เผยแพร่ออกมาไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรต่อบริษัทสัญชาติอเมริกันที่ทำธุรกิจอยู่ในจีนทันที ขณะที่ เจฟฟ์ มูน ผู้ช่วยผู้แทนการค้าสหรัฐฯ สำหรับกิจการจีนในช่วงปีสุดท้ายของรัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบามา บอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ภาคภาษาจีน ว่า วิธีการใช้คำพูดในประกาศล่าสุดนี้ มีความคลุมเครือมากพอที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อธุรกิจต่างชาติในเวลานี้ แต่เป็นเหมือนคำเตือนสำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัทอเมริกัน ว่า จีนมีความตั้งใจและมีความน่าจะเป็นที่จะตอบโต้ในอนาคต
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า รายชื่อดังกล่าวไม่ได้มุ่งเป้าไปยังประเทศใด หรือบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ พร้อมย้ำว่า จีนยังคงยินดีต้อนรับนักลงทุนต่างชาติและจะเปิดประตูเศรษฐกิจเพื่อทำการปฏิรูปให้มากขึ้นด้วย