Fact Check! ข้อเท็จจริงยืนยัน ทวีต ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ สุดมั่ว ระบุคะแนนผิดกฎหมายนับล้านๆ ขณะที่พรรคกรีนเดินหน้าขอนับคะแนนใหม่ 3 รัฐ

Donald Trump

Your browser doesn’t support HTML5

US Election Recount

ทำเนียบขาวและนักตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสื่อต่างๆ ปฏิเสธความน่าเชื่อถือของข้อกล่าวหาของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ออกมาอ้างว่ามีการลงคะแนนเลือกตั้งอย่างผิดกฎหมายนับล้านๆ คน ขณะที่ผู้แทนพรรคกรีนเดินหน้าขอนับคะแนนใหม่ใน 3 รัฐ

หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาระบุในทวีตเตอร์ส่วนตัวว่า เขาน่าจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย หากไม่นับผลการลงคะแนนนับล้านๆ คนที่ผิดกฎหมาย ซึ่งลงคะแนนให้นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า มีการโกงการเลือกตั้งในรัฐเวอร์จิเนีย นิวแฮมเชอร์ และแคลิฟอร์เนียอย่างมหาศาล จนกลายเป็นข้อกล่าวหาที่หลายฝ่ายต้องออกมาตรวจสอบข้อเท็จจริง

นายจอร์จ เออร์เนส โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตอบคำถามกับสื่อมวลชน ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ปราศจากข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยระบุว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ที่สนับสนุนข้ออ้างของนายโดนัลด์ ทรัมป์

เช่นเดียวกับนักตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือ ‘Fact Checker’ จากสำนักข่าวหลักหลายสำนักในสหรัฐฯ ทั้งจากวอชิงตัน โพสต์, นิวยอร์ก ไทม์ และลอส แองเจลิส ไทม์ ที่ต่างออกมาระบุตรงกันว่า ข้อกล่าวหาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ นั้นเลื่อนลอยอย่างมาก และหากไม่มีหลักฐานใดๆ มาสนับสนุน ก็เท่ากับข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง

‘Fact Checker’ จากวอชิงตัน โพสต์ บอกว่า ข้อกล่าวหาของนายทรัมป์ มีลักษณะเดียวกับข่าวลือที่แพร่สะพัดในกลุ่มนักสมคบคิดฝ่ายขวาจัด ที่ออกมาระบุหลังการเลือกตั้งว่า มีกลุ่มผู้อพยพเข้าเมืองทีไม่มีบัตรประจำตัวไปลงคะแนนราวๆ 3 ล้านคน ซึ่งเป็นสิ่งที่เลื่อนลอยเพราะผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งจะต้องเป็นพลเมืองสหรัฐเท่านั้น

ในการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทางการท้องถิ่นทั้ง 50 รัฐจะเป็นผู้จัดการเลือกตั้งเอง โดยผู้ที่ชนะในแต่ละรัฐจะเป็นผู้ได้คะแนน Electoral Vote หรือคะแนนคณะผู้เลือกตั้งทั้งหมดในรัฐนั้นไปครอง

Voters fill out their forms at a polling station in the Brooklyn borough of New York, Nov. 8, 2016.

การเลือกตั้งที่ผ่านมา ว่าทีประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นฝ่ายชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ของระบบ Electoral College ใน 50 รัฐ ทั่วอเมริกาด้วยคะแนน 306- 232

ขณะที่นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากเดโมแครตมีคะแนนระบบ Popular Vote หรือ คะแนนนิยมที่มีผู้ลงคะแนนให้โดยตรง มากกว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ กว่า 2.2 ล้านคะแนน ซึ่งจนถึงขณะนี้การนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย และกลุ่มหมู่เกาะแปซิฟิก

Alex Padilla เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการเลือกตั้งของพรรคเดโมแครตในรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ข้อกล่าวหาของนายทรัมป์ นอกจากจะไร้หลักฐานโดยสิ้นเชิงแล้ว ยังเป็นการทวีตไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่จะก้าวขึ้นไปดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

ขณะที่ นาย James Lankford ส.ว.พรรคริพับลิกัน จากรัฐโอคลาโฮมา บอกสั้นๆ ว่า ไม่พบการเลือกตั้งที่ผิดปกติเป็นจำนวนล้านๆ อย่างที่กล่าวหา

ก่อนหน้านี้ นาง จิล สไตน์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคกรีน ได้เตรียมยื่นขอให้มีการนับคะแนนใหม่ใน 3 รัฐที่มีคะแนนสูสี คือที่รัฐวิสคอนซิล ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะนางคลินตันเพียง 27,000 คะแนน เช่นเดียวกับที่รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐมีคะแนนห่างกันราว 69,000 คะแนน และที่รัฐมิชิแกน ซึ่งทรัมป์ชนะนางคลินตันเพียง 11,000 คะแนนเสียงเท่านั้น

Jill Stein, the Green Party's presidential nominee, speaks to supporters at a post-convention party. (G. Flakus/VOA)

การยื่นร้องครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลว่ามีความเป็นไปได้ถึงการถูกโจมตีระบบคอมพิวเตอร์จากแฮคเกอร์ชาวรัสเซียในการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่หากผลคะแนนพลิกกลับมาให้ฝ่ายนางฮิลลารี คลินตันชนะ ผลการเลือกตั้งก็อาจจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพราะคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งของนางคลินตันจะพลิกกับมาที่ 271 ต่อ 269 ทันที

นาย Jason Miller โฆษกของนายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า การออกมาเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่เป็นเรื่องที่น่าตลก และเสียเวลาโดยใช่เหตุ เพราะผลการเลือกตั้งได้ออกมาแล้ว

อย่างไรก็ตามการนับคะแนนใหม่จะแต่ละรัฐต้องนับให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 13 ธันวาคม ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายของการส่งผลคะแนนอย่างเป็นทางการ