สหรัฐฯ วุ่น! พบผู้ติดเชื้อในกรุงวอชิงตัน - 4 นักการเมืองเฝ้าระวังอาการ

Mike Pence

ในเช้าวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน มิวเรียล เบาเซอร์ แถลงแจ้งผู้ที่เข้าร่วมพิธีที่โบสถ์ Christ Church Georgetown เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์และวันที่ 3 มีนาคม ให้ทำการกักตัวเองเพื่อเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่เข้าไปในพื้นที่โบสถ์ หลังมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรกของกรุงวอชิงตันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่รัฐประกาศว่า ผู้ติดเชื้อรายแรกดังกล่าวเป็นชายวัย 50 กว่าปีและเป็นอธิการของโบสถ์แห่งหนึ่ง ซึ่งรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลและมีการอาการคงที่ ขณะที่ทางโบสถ์ได้สั่งยกเลิกกิจกรรมต่างๆ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายที่สองของกรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย แต่ปัจจุบันรับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่รัฐแมริแลนด์

ดร. อันจาลี ทัลวอร์คเกอร์ จากสำนักงานสาธารณสุขกรุงวอชิงตัน กล่าวในวันจันทร์ว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อ คือผู้ที่อยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 6 เมตร ดังนั้น ในกรณีของผู้ป่วยในโบสถ์ มีผู้ที่มีความเสี่ยงหลายร้อยคน

ส่วนกรณีผู้ป่วยรายที่สองนั้น ผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอาการ 3 คนที่อยู่บ้านเดียวกับผู้ติดเชื้อ ได้รับการทดสอบแล้วและผลออกมาว่าไม่มีการติดเชื้อ แต่เนื่องจากหนึ่งในนั้นทำงานที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ผู้บริหารโรงเรียนตัดสินใจสั่งหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อทำความสะอาดและสื่อสารข้อมูลกับเจ้าหน้าที่และผู้ปกครอง

นอกจากนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า สมาชิกสภาคองเกรส 4 ราย ประกาศทำการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอาการ หลังเข้าร่วมกิจกรรมการประชุมใหญ่งานหนึ่งที่มีการพบผู้ติดเชื้อ

ในช่วงที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความออกมาปฏิเสธข่าวที่ว่า รัฐบาลปัจจุบันส่งข่าวสารที่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน โดยกล่าวว่า ทำเนียบขาวมีการประสานงานและตรวจสอบข้อมูลกันอย่างไร้ที่ติเพื่อวางแผนรับมือการระบาดของโคโรนาไวรัส และชมเชยการทำงานของรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ซึ่งรับผิดชอบดูแลการควบคุมการระบาด พร้อมทั้งระบุว่าสื่อปลอม (fake news media) พยายามทำทุกวิถีทางที่จะทำให้รัฐบาลดูแย่ในสายตาประชาชน​

ในสหรัฐฯ ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 26 คน และมีผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 650 คน

ตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมผู้ต้องสงสัยติดเชื้อบนเรือสำราญ แกรนด์ พรินเซส ซึ่งถูกสั่งให้จอดรอนอกชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อบ้างแล้ว

รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่มีแผนที่จะพาตัวผู้โดยสารซึ่งมีถิ่นฐานในรัฐแคลิฟอร์เนีย ไปกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอาการที่ฐานทัพในรัฐนั้นเป็นเวลา 14 วัน ส่วนผู้ที่มาจากรัฐอื่นนั้นจะต้องไปเฝ้าระวังอาการที่ฐานทัพในรัฐเท็กซัส หรือ รัฐจอร์เจีย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งสหรัฐฯ หรือ CDC เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังประสานงานกับรัฐบาลของประเทศของผู้โดยสารต่างชาติหลายร้อยคนที่เดินทางไปกับเรือสำราญลำนี้เพื่อดำเนินการส่งตัวกลับต่อไป ส่วนลูกเรือนั้นจะคงอยู่บนเรือจนกว่าผู้โดยสารทุกคนจะลงจากเรือไปหมด

นอกจากนั้น เรือสำราญแคริบเบียน พรินเซส ซึ่งจัดการเดินทางท่องคลองปานามาเป็นเวลา 10 วัน และมีกำหนดกลับมาถึงรัฐฟลอริดาในวันพุธนี้ ผู้บริหารเรือมีแผนกักตัวผู้โดยสารไว้เพื่อทำการทดสอบการติดเชื้อก่อน เนื่องจากมีลูกเรือ 2 รายที่โอนย้ายมาจากเรือสำราญ แกรนด์ พรินเซส แต่การทดสอบยังไม่พบการติดเชื้อ โดยภายใต้คำสั่งของ CDC เรือลำนี้ต้องจอดรออยู่นอกฝั่งจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำแนะนำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อขอให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางไปกับเรือสำราญในระยะนี้ เนื่องจากความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19