ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ปธน.ทรัมป์ลงนามอนุมัติงบฉุกเฉินกว่า 8 พันล้านดอลลาร์รับมือโควิด-19


Secretary of Health and Human Services Alex Azar looks on as President Donald Trump shows a spending bill to combat the Coronavirus, at the White House, Friday, March 6, 2020, in Washington. (AP Photo/Evan Vucci)
Secretary of Health and Human Services Alex Azar looks on as President Donald Trump shows a spending bill to combat the Coronavirus, at the White House, Friday, March 6, 2020, in Washington. (AP Photo/Evan Vucci)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามอนุมัติงบประมาณฉุกเฉิน 8.3 พันล้านดอลลาร์ ในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อนำไปใช้ในมาตราการต่างๆ สำหรับการป้องกันและต่อสู้กับการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19

รัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนที่จะใช้งบประมาณที่ได้รับจากการผ่านกฎหมายฉุกเฉินโดยทั้งสภาล่างและสภาสูงอย่างเกือบเป็นเอกฉันท์เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อและการพัฒนาวัคซีนสำหรับไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ รวมทั้งเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับรัฐ เพื่อรับมือกับภาวะการระบาดด้วย

สถานการณ์การแพร่กระจายของโควิด-19 ยังคงขยายเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ โดยเขตมอนท์โกเมอรี่ ซึ่งเป็นชุมชนชานเมืองในรัฐแมรี่แลนด์ ที่ติดกับกรุงวอชิงตัน กลายมาเป็นพื้นที่ที่ยืนยันผู้ติดเชื้อล่าสุด 3 ราย ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเช่นกัน

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ทั้ง 3 รายเพิ่งเดินทางกลับมาจากการท่องเรือสำราญในต่างประเทศ

การพบผู้ติดเชื้อนี้ทำให้ แลร์รี่ โฮแกน ผู้ว่าการรัฐฯ ตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐแมรี่แลนด์ทันที

ก่อนหน้านี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐฟลอริด้า รัฐวอชิงตัน และรัฐฮาวาย ประกาศภาวะฉุกเฉินจากกรณีการระบาดของโควิด-19 ไปเรียบร้อยแล้ว

และในวันเดียวกันนี้เอง รัฐโคโลราโดยืนยันพบผู้ติดเชื้อ 2 ราย โดยทั้งคู่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ เปิดก่อนหน้านี้ว่า ชุดทดสอบการติดเชื้อโควิด-19 รวม 1 ล้านชุด จากบริษัทผู้ผลิตแห่งหนึ่งจะเดินทางไปถึงห้องทดลองต่างๆ ภายในสุดสัปดาห์นี้

รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ยอมรับว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้มีชุดทดสอบพร้อมใช้งานมากพอ หากเกิดการติดเชื้อวงกว้างในประเทศในอนาคต แต่ยืนยันว่า มีความพยายามเร่งจัดหาอย่างเต็มที่และประสบความสำเร็จบ้างแล้วในช่วงที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน กลุ่มพยาบาลแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Nurses United) บอกว่า สมาชิกของกลุ่มนั้นไม่มีทรัพยากร เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ป้องกันที่ต้องใช้ และความรู้ความสามารถในการรับมือกับการระบาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมระบุว่า หากรัฐบาลจะดำเนินยุทธศาสตร์ใดๆ โดยไม่คำนึงถึงสวัสดิภาพและการป้องกันสำหรับพยาบาลและผู้ที่ทำหน้าที่ในหน่วยงานสาธารณสุข แผนงานต่างๆ ก็ไม่อาจจะประสบความสำเร็จดังหวังได้

XS
SM
MD
LG