รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวว่า สหรัฐฯ ปฏิเสธการกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ของจีนเหนือทะเลจีนใต้ และพร้อมยืนเคียงข้างประเทศในอาเซียนเพื่อรับมือกับการข่มขู่คุกคามจากจีน
รัฐมนตรีบลิงเคน กล่าวในการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ในวันพุธ ผ่านการประชุมวิดีโอออนไลน์ โดยระบุว่า สหรัฐฯ มีความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ในเมียนมา และขอให้อาเซียนเร่งใช้มาตรการยุติความรุนแรงและฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมาให้กลับคืนมา
การประชุมกับรัฐมนตรีของอาเซียนครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของรัฐมนตรีบลิงเคน หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม และมีขึ้นในขณะที่กำลังเกิดความกังวลในหมู่นักการทูตว่า สหรัฐฯ อาจไม่ให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้มากนัก ทั้งที่เป็นภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในการต่อต้านอิทธิพลของจีน
ในประเด็นที่เกี่ยวกับเมียนมา ที่ผ่านมาอาเซียนรับบทนำในการใช้ความพยายามทางการทูตเพื่อยุติความรุนแรงในเมียนมาภายหลังรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
เมื่อเดือนเมษายน ที่ประชุมอาเซียนได้บรรลุข้อตกลงให้ผู้นำทหารเมียนมาทำตามฉันทามติ 5 ข้อซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสันติภาพในเมียนมา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่ารัฐบาลทหารเมียนมาจะปฏิบัติตามแต่อย่างใด
รัฐมนตรีบลิงเคนได้ขอให้อาเซียนใช้ "มาตรการเร่งด่วน" เพื่อบังคับใช้ฉันทามติ 5 ข้อนั้น และเร่งแต่งตั้งผู้แทนพิเศษประจำเมียนมา พร้อมไปกับการกดดันให้ผู้นำทหารเมียนมาปล่อยตัวบรรดาอดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนและนักโทษการเมืองที่ถูกคุมขังไว้
ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของจีนในทะเลจีนใต้ - คานการขยายอิทธิพลลุ่มแม่น้ำโขง
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังได้ปฏิเสธการกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ของจีนเหนือทะเลจีนใต้ และยืนยันว่าพร้อมยืนเคียงข้างประเทศในอาเซียนเพื่อรับมือกับการข่มขู่คุกคามจากจีน
คำแถลงของรัฐมนตรีบลิงเคนยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนให้มีการสัญจรและใช้แม่น้ำโขงอย่างเสรีและเปิดกว้าง ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศแถบตอนล่างของลุ่มแม่น้ำโขงด้วย