รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศแผนเตรียมขอสภาคองเกรสให้อนุมัติงบประมาณมูลค่า 75 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ฉนวนกาซา หลังอิสราเอลและปาเลสไตน์ประกาศหยุดยิงไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แอนโทนี บลิงเคน ประกาศแผนการส่งมอบความช่วยเหลือรอบใหม่ให้ปาเลสไตน์ในวันอังคาร หลังเข้าหารือกับประธานาธิบดี มาห์มูด อับบาส ในเมืองรามัลลาห์ และกล่าวว่า ขณะที่สหรัฐฯ ยินดีกับการประกาศหยุดยิง สิ่งที่สำคัญจากนี้คือ การก้าวเดินต่อไปในทิศทางที่เป็นบวกต่อทุกฝ่าย
รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ จะเปิดสถานกงสุลในนครเยรูซาเลมอีกครั้ง หลังรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัปม์ สั่งปิดไปเมื่อปี ค.ศ. 2019 พร้อมทั้งจะส่งมอบเงิน 5.5 ล้านดอลลาร์เพื่อเป็นงบช่วยเหลือภัยพิบัติ และงบอีกกว่า 32 ล้านดอลลาร์ภายใต้โครงการความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมขององค์การสหประชาชาติด้วย
นอกจากนั้น สหรัฐฯ จะอนุมัติงบอีก 75 ล้านดอลลาร์เพื่อการพัฒนาและการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจให้กับปาเลสไตน์ในปีนี้ ตามคำกล่าวของ รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ
ในส่วนของการกลับมาเปิดสถานกงสุลในนครเยรูซาเลมนั้น รมต.บลิงเคน ระบุว่า เป็นหนทางที่มีความสำคัญสำหรับสหรัฐฯ ที่จะได้ทำงานร่วมและส่งมอบความช่วยเหลือต่างๆ ให้กับชาวปาเลสไตน์ ทั้งยังยืนยันด้วยว่า สหรัฐฯ จะพยายามไม่ให้กลุ่มติดอาวุธฮามาสเข้ามามีส่วนร่วมรับประโยชน์จากความพยายามฟื้นฟูปาเลสไตน์เป็นอันขาด
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าของวันอังคาร รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางไปเยือนนครเยรูซาเลม และได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และกล่าวว่า ทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ต่างต้องประสบความสูญเสียอย่างมากในการต่อสู้กัน พร้อมทั้งให้คำมั่นที่จะช่วยหาทางเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชาวปาเลสไตน์ทั้งที่ใช้ชีวิตอยู่ในฉนวนกาซาและในเขตเวสต์แบงก์ เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่มีความมั่นคง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งชาวปาเลสไตน์และชาวอิสราเอลต่อไป
