รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินเยือนกรุงเคียฟเพื่อร่วมหารือกรณีความกังวลว่า รัสเซียอาจจะทำการเคลื่อนพลรุกล้ำยูเครนในเร็วๆ นี้
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกเดินทางไปยังยูเครนในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเข้าประชุมกับประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี และดิมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนในวันพุธ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กำหนดการเดินทางนี้ถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยจุดประสงค์ที่จะ “แสดงจุดยืนสนับสนุนความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ต่ออธิปไตยและบูรณภาพของดินแดนของยูเครน”
หลังการประชุมที่กรุงเคียฟแล้ว รมต.บลิงเคน จะเดินทางต่อไปยังกรุงเบอร์ลิน เพื่อเข้าพบ อันนาเลนา แบร์บอค รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี “เพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้ช่องทางการทูตเข้าหารัสเซีย และความร่วมมือในการยับยั้งการรุกรานเข้ายูเครนของรัสเซีย” ตามข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
รายงานข่าวระบุว่า การที่รัสเซียสั่งเพิ่มกำลังพลตามแนวชายแดนทางทิศตะวันออกของตนที่ติดกับยูเครนขึ้นเป็น 100,000 นายในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดความกลัวกันว่า รัฐบาลกรุงมอสโกอาจกำลังวางแผนการณ์ทางทหารเพื่อบุกประเทศเพื่อนบ้านของตน ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต หลังจากที่ รัสเซียประกาศผนวกคาบสมุทรไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับตนเมื่อปี ค.ศ. 2014
การเดินทางเยือนยูเครนและเยอรมนีของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียที่นครเจนีวาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับกรณียูเครนและประเด็นความมั่นคงอื่นๆ แต่การประชุมดังกล่าวจบลงโดยไม่มีรายงานความคืบหน้าใดๆ ออกมา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวหากรุงมอสโกว่า กำลังเตรียม “ปฏิบัติการธงหลอก” เพื่อใช้ในการเข้าแทรกแซงยูเครน และรัสเซียออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างฉุนเฉียวในเวลาต่อมา
และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะผู้แทนสหรัฐฯ เพิ่งเดินทางเยือนกรุงเคียฟ เพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครน ที่กำลังเผชิญข้อขัดแย้งกับรัสเซียอยู่
ส.ว.เอมี โคลบูชาร์ สังกัดพรรคเดโมแครต บอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ภาคภาษายูเครนว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันที่มีมุมมองด้านการเมืองที่แตกต่าง กลับร่วมใจกันยืนยันว่า จะอยู่เคียงข้างยูเครน และหาก ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน เลือกที่จะใช้หนทางที่ขัดแย้งต่อระบอบประชาธิปไตย เพื่อบุกรุกเข้ายูเครน รัสเซียจะเผชิญกับมาตรการลงโทษที่รุนแรงและรวดเร็วอย่างแน่นอน ขณะที่ ส.ว.เควิน เครเมอร์ ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน บอกับ วีโอเอ ว่า สหรัฐฯ จะไม่ยอมยิ่งเฉยและยืนดูสถานการณ์ต่างๆ หากเกิดอะไรขึ้น และมุ่งที่จะทำการป้องกันต่างๆ ก่อนที่จะเกิดการต่อสู้กันขึ้น
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี