ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า กองทัพสหรัฐฯ กำลังเริ่มกระบวนการลดจำนวนทหารอเมริกันที่ประจำการในประเทศอิรัก โดยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ
อย่างไรก็ดี ในข้อความที่ทวีตออกมานี้ ปธน.ทรัมป์ แนบลิงค์ของรายงานข่าวการลดจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารในภูมิภาคตะวันออกกลางจาก 5,200 นายให้เหลือ 3,500 นาย โดยสำนักข่าว OAN ซึ่งเป็นสื่ออนุรักษ์นิยมที่สนับสนุนผู้นำสหรัฐฯ มาด้วย
ขณะเดียวกัน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เจสสิกา แอล แมคนัลตี ยืนยันรายงานนี้ โดยระบุว่า การลดกำลังทหารอเมริกันนั้นเป็นไปตามสถานการณ์ในอิรักที่เริ่มมีความสามารถในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส (Islamic State) ได้ดีขึ้น
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่า การลดจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ ในอิรักจะเกิดขึ้นภายการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลอิรัก รวมทั้งพันธมิตรอื่นๆ และสมาชิกในกลุ่มนาโต้ ด้วยการพิจารณาประเด็นความมั่นคงและความก้าวหน้าในการปราบปรามกลุ่มไอซิสด้วย
การพูดคุยเรื่องของการลดกำลังทหารอเมริกันในภูมิภาคตะวันออกกลางระหว่างสหรัฐฯ และอิรักดำเนินมาตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี และมีการถูกหยิบยกขึ้นมาถกระหว่างการเยือนทำเนียบขาวของ นายกรัฐมนตรีอิรัก มุสตาฟา อัล-คาดิห์มี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ฮุสเซน อาลี อัลลาวี ศาสตราจารย์ด้านความมั่นคงประเทศที่มหาวิทยาลัยนาห์เรน (Nahrain University) ใน กรุงแบกแดด ให้ความเห็นว่า การที่กองทัพอิรักสามารถปราบปราบกลุ่มไอซิสในเมืองสำคัญๆ ของประเทศได้แล้ว ทำให้เห็นว่า อิรักมีความสามารถในการจัดการเรื่องนี้เพิ่มขึ้นจริงๆ แต่กองกำลังพันธมิตรที่มีสหรัฐฯ เป็นผู้นำ ยังคงมีความสำคัญในการให้การสนับสนุนด้านต่างๆ อยู่
ศาสตราจารย์อัลลาวี บอกกับ วีโอเอ ว่า ขณะที่แผนการถอนรากถอนโคนกลุ่มไอซิสในอิรักเดินหน้าอยู่นี้ รัฐบาลกรุงแบกแดดยังคงต้องการความเชี่ยวชาญของกองกำลังพันธมิตรนานาชาติเพื่อช่วยพัฒนากองกำลังของตน และปฏิรูปงานด้านความมั่นคง รวมทั้งสร้างเสริมความสามารถของหน่วยข่าวกรองและเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและประชาชนด้วย
ศาสตราจารย์อัลลาวี กล่าวเสริมว่า เป้าหมายสูงสุดของรัฐบาลกรุงวอชิงตันและรัฐบาลกรุงแบกแดดคือการถอนกำลังทหาร 3,500 นายที่ยังอยู่ในอิรักออกมาให้หมดภายใน 3 ปี นับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ กองกำลังพันธมิตรที่สหรัฐฯ เป็นผู้นำออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า มีการถอนกำลังทหารออกจากฐานทัพทาจิ ในอิรักและถ่ายโอนความรับผิดชอบต่างๆ ให้กับกองกำลังอิรักไปตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกระบวนการนี้เป็นการถ่ายโอนหน้าที่ครั้งที่ 8 กลับให้อิรักด้วย