ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเจ้าภาพการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติในวันพุธ โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวโจมตีรัฐบาลอิหร่านและโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า "อิหร่านคือผู้สนับสนุนการก่อการร้ายรายใหญ่ที่สุดในโลก" และว่าอิหร่านก้าวร้าวยิ่งขึ้นหลังมีการจัดทำข้อตกลงด้านนิวเคลียร์เมื่อสามปีก่อนภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ซึ่ง ปธน.ทรัมป์ เน้นย้ำว่าเป็นข้อตกลงที่แย่ และได้ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงที่ว่านี้เมื่อหลายเดือนท่ี่แล้ว
ปธน.ทรัมป์ ยังกล่าวหารัฐบาลอิหร่านว่าเป็นระบอบการปกครองที่ป่าเถื่อน ซึ่งไม่สมควรมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง และเตือนว่าสหรัฐฯ จะใช้มาตรการลงโทษที่รุนแรงขึ้นต่ออิหร่าน
หลังจากผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเสร็จ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาคร็อง ขึ้นกล่าวต่อทันที โดยระบุว่าจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ระยะยาวสำหรับอิหร่าน ซึ่งไม่ใช่แค่การใช้มาตรการลงโทษหรือการควบคุมจำกัด และกล่าวเสริมด้วยว่า ทุกประเทศต่างมีเป้าหมายร่วมกันในการป้องกันไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
WATCH: Trump Rejects Globalism in UN Address
Your browser doesn’t support HTML5
เมื่อวานนี้ระหว่างการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ปธน.ทรัมป์ ระบุว่า สหรัฐฯ ได้เริ่มนำมาตรการลงโทษต่ออิหร่านกลับมาใช้อีกครั้ง เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากที่ถูกยกเลิกไปเพราะข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ที่รัฐบาล ปธน.โอบาม่า ทำไว้กับอิหร่านเมื่อ 3 ปีก่อน และว่า อาจมีการลงโทษเพิ่มอีกในวันที่ 5 พ.ย.นี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศผู้สนับสนุนการก่อการร้ายรายใหญ่นี้สามารถมีอาวุธอำนาจทำลายล้างสูงไว้ในครอบครอง
ต่อมา ปธน.ทรัมป์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนหวังว่าจะสามารถมีการเจรจากับผู้นำอิหร่านได้ เหมือนกับที่ตนได้เจรจากับผู้นำเกาหลีเหนือมาแล้ว แต่การเจรจาดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่ออิหร่านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียก่อน
ด้านประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซาน รูฮานี ขึ้นกล่าวต่อที่ประชุม UNGA ในวันนี้เช่นกัน โดยระบุว่าไม่มีประเทศไหนที่จะถูกลากสู่โต๊ะเจรจาโดยไม่เต็มใจ และว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังละเมิดนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดก่อน รวมทั้งกล่าวหาว่า ปธน.ทรัมป์ กำลังพยายามทำให้องค์กรโลกต่างๆ ไร้ประสิทธิภาพ
ปธน.อิหร่าน ยังได้บอกปัดคำอ้างของ ปธน.ทรัมป์ ที่ว่าตนพยายามขอให้มีการเจรจาโดยตรงกับ ปธน.ทรัมป์ มาแล้วหลายครั้ง แต่ผู้นำสหรัฐฯ ปฏิเสธ