องค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า สมาชิกของยูเอ็น 50 ประเทศได้ลงนามรับรองสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์แล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ในอีก 90 วันข้างหน้า คือวันที่ 22 มกราคม ปี ค.ศ. 2021
แถลงการณ์ของเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส ชมเชยการทำงานของ 50 ประเทศและบรรดาองค์กรต่อต้านนิวเคลียร์ทั่วโลกที่ทำให้สนธิสัญญาฉบับนี้ลุล่วง เพื่อสร้างความสนใจต่อผลกระทบทางมนุษยธรรมที่เกิดจากการใช้อาวุธนิวเคลียร์ และเพื่ออุทิศให้กับบรรดาผู้รอดชีวิตจากการระเบิดและการทดสอบนิวเคลียร์ซึ่งหลายคนเป็นที่ปรึกษาในการจัดทำสนธิสัญญาฉบับนี้
นายกูเตอร์เรส ระบุในแถลงการณ์ว่า สนธิสัญญาฉบับนี้คือความร่วมมืออย่างมีความสำคัญเพื่อกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญที่สุดของสหประชาชาติในความพยายามปลดอาวุธทั่วโลก
ด้านประธานองค์การกาชาดสากล แสดงความยินดีต่อสนธิสัญญานี้ โดยชี้ว่าเป็นชัยชนะของมวลมนุษยชาติ และเป็นการรับประกันถึงอนาคตที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
นับตั้งแต่วันครบรอบ 75 ปี เหตุการณ์ระเบิดนิวเคลียร์ถล่มเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิของญี่ปุ่น เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกได้ร่วมกันลงนามรับรองสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ฉบับนี้ รวมถึง ไนจีเรีย มาเลเซีย ไอร์แลนด์ และมอลตา
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ และประเทศผู้ครอบครองนิวเคลียร์หลายประเทศต่างคัดค้านข้อตกลงดังกล่าว