บริษัทพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครน มีแถลงการณ์ในวันจันทร์ว่า ทหารรัสเซียได้ใช้ขีปนาวุธโจมตีใส่พื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ พิฟเดนนูเครนสก์ (Pivdennoukrainsk) ทางภาคใต้ของยูเครน
บริษัท เอเนอร์โกอะตอม (Energoatom) รายงานว่า ขีปนาวุธของรัสเซียตกลงห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ราว 300 เมตร แต่มิได้สร้างความเสียหายให้แก่เตาปฏิกรณ์และอาคารใกล้เคียงแต่อย่างใด
"รัสเซียกำลังสร้างอันตรายต่อทั่วโลก" ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุทางเทเลแกรมหลังมีรายงานการโจมตีครั้งนี้ "เราต้องหยุดยั้งให้ได้ก่อนจะสายเกินไป"
โรงไฟฟ้า พิฟเดนนูเครนสก์ คือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่อันดับสองของยูเครนรองจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซาปอริห์เชีย (Zaporizhzhia) ที่ต้องปิดการทำงานไปตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเนื่องจากการระดมโจมตีด้วยปืนใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงซึ่งทั้งรัสเซียและยูเครนต่างกล่าวหากันและกันว่าเป็นผู้โจมตี
เมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ทหารยูเครนกล่าวว่า กองทัพยูเครนได้ตอบโต้และขับไล่การโจมตีของรัสเซียในหลายพื้นที่ของเขตปกครองคาร์คิฟทางภาคตะวันออก เคอร์ซอนทางภาคใต้ รวมทั้งบางส่วนของเขตปกครองดอแนตสก์
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เตือนว่า การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป และเรายังไม่อาจนอนข่มตาหลับได้ แต่ต้องเตรียมต่อสู้ในสมรภูมิต่อไปจนกว่ายูเครนจะเป็นอิสระ
SEE ALSO: ‘ไบเดน’ เตือน ‘ปูติน’ อย่าใช้นิวเคลียร์ทำสงครามกับยูเครน
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน กล่าวในการสัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ทาง CBS News ที่ออกอากาศในค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐฯ เตือนไปถึงประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ว่าอย่าใช้อาวุธอำนาจทำลายล้างสูงในการทำสงครามกับยูเครน
เมื่อถูกถามถึงประเด็นที่รัสเซียอาจมีการใช้อาวุธทำลายล้างสูง (WMDs) ต่อยูเครน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า “อย่า อย่า และอย่า คุณจะเปลี่ยนการเผชิญหน้าของสงครามในแบบที่ไม่มีสิ่งใดเหมือนนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2”
ปธน.ไบเดน ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า "ยูเครนจะไม่แพ้สงคราม ด้วยความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ตลอดจนความกล้าหาญและการมุ่งมั่นอันน่าเหลือเชื่อของเหล่าประชาชนยูเครนเอง"
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า "ชัยชนะในสงครามครั้งนี้ หมายถึงการขับไล่รัสเซียออกจากยูเครนอย่างสมบูรณ์ พร้อมกับการเชิดชูยอมรับอธิปไตยเหนือดินแดนทั้งหมดของยูเครน" นอกจากนี้ ไบเดนยืนยันด้วยว่า สหรัฐฯ จะยังคงให้การสนับสนุนด้านการทหารและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ยูเครนต่อไป "ตราบเท่าที่ต้องการ"
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์